ล้างจมูก แล้วแก้วหูจะทะลุไหม ทำไมลูกสำลักเวลาล้าง น้ำเกลือแบบไหนเหมาะแก่การล้างจมูกลูก สารพัดสารพันปัญหาที่คุณแม่อยากรู้ วันนี้คุณหมอจะมาเฉลยวิธีให้ทราบกัน
15 คำถามข้องใจกับการ ล้างจมูก ให้ปลอดภัยในวัยเด็ก
ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ สามารถชะล้างสิ่งสกปรกออกจากโพรงจมูก และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะในวัยเด็กที่มักติดเชื้อง่าย อีกทั้งในปัจจุบันที่โลกเราเต็มไปด้วยมลภาวะเป็นพิษ ทั้งปัญหาจากฝุ่นควัน ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ที่เมื่อลูกเราหายใจเข้าไปแล้วไปสะสมภายในจมูกมาก ๆ ก็ก่อให้เกิดการอุดกั้นในระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจไม่สะดวก โดยเฉพาะในเด็กที่ไม่สามารถบอกอาการกับเราได้ การล้างจมูกจึงเป็นวิธีที่ดีในการช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่หากไม่รู้วิธี หรือไม่ระมัดระวังมากพอ การล้างจมูกในวัยเด็ก ก็อาจก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่มีคำถามเกิดขึ้นในใจมากมายที่ต้องการทราบจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความสบายใจ และปลอดภัยต่อลูกน้อยของเรา วันนี้ทาง ทีมแม่ ABK จึงได้นำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการล้างจมูกของคุณหมอ ศ.พญ. อรุณวรรณ พฤทธิพันธ์ุ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ และ ภญ.นรินทร อาศิรพรพงศ์ เภสัชกรคลินิก ฝ่ายเภสัชกรรม รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาฝากกัน พร้อมทั้งรวบรวมคำถาม และคำตอบของคุณหมอมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้คลายข้อสงสัยกันด้วย
คำถามที่ 1 การล้างจมูก คืออะไร?
คือ การล้างสิ่งที่สกปรกในจมูกให้ออกมา เรียกว่าเป็นการล้างจมูกแบบธรรมชาติ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรค โดยเฉพาะการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ มีบรรจุอยู่ในแนวทางการรักษาโรคได้ด้วย เช่น โรคไข้หวัด โรคไซนัสอักเสบ โรคภูมิแพ้ เพราะยอมรับกันแล้วว่าสามารถช่วยให้อาการของโรคเหล่านี้ดีขึ้นจนสามารถลดการใช้ยาลงได้
คำถามที่ 2 ใครที่ต้องได้รับการล้างจมูก?
การล้างจมูกสามารถทำได้ในทุกเพศ ทุกวัย ทุกคนไม่เฉพาะแต่ผู้ป่วยเท่านั้น แต่อาจจะมีวิธีการที่ต่างกันในแต่ละวัย ต้องศึกษา และทำความเข้าใจก่อน เพราะอาจเกิดอันตรายยิ่งโดยเฉพาะในวัยเด็ก ที่ยังไม่สามารถกลั้นหายใจได้ หรือในผู้ป่วยบางรายที่มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืน ภาวะเลือดกำเดาไหล อาจจะสำลักน้ำเกลือได้
คำถามที่ 3 การล้างจมูกในเด็กอย่างไร? ให้มีประสิทธิภาพ และไร้ซึ่งภาวะแทรกซ้อน
ต้องได้รับความร่วมมือในการล้างจมูกจากลูก อาจใช้วิธีทางจิตวิทยาช่วยให้เด็กร่วมมือ เช่น การเปิดคลิปวิดีโอการล้างจมูกของเด็กคนอื่น เมื่อเห็นตัวอย่างก็จะช่วยลดความกลัวของลูกลงไปได้
คำถามที่ 4 หากบังคับให้ลูกล้างจมูกโดยที่เขายังไม่ยินยอมจะเป็นอย่างไร?
การล้างจมูกแบบผิดวิธี หรือการที่ลูกยังไม่ให้ความร่วมมือนั้น เป็นสิ่งที่อันตราย อาจจะได้รับผลเสียมากกว่าประโยชน์ของการล้างจมูกด้วยซ้ำไป เพราะการที่เด็กไม่ให้ความร่วมมือนั้น เขาอาจจะเกิดการสำลักน้ำเกลือได้ และทำให้เชื่้อโรค หรือสิ่งสกปรกที่ต้องการล้างออกนั้น เข้าไปสู่หู หรือส่วนอื่น ๆ ทำให้ไปกระทบกระเทือนต่อหู อาจทำให้ปวดหู หูอักเสบ หรือมีอาการเดินเซ เวียนหัวได้
คำถามที่ 5 การล้างจมูกเริ่มได้ตั้งแต่วัยไหน?
สามารถเริ่มได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้ใหญ่เลย แต่การล้างจมูกในเด็กแรกเกิดต้องมีอุปกรณ์เฉพาะเรียกว่า เครื่อง SUCTION เครื่องดูดเสมหะเด็ก ร่วมกับอุปกรณ์อีกชิ้นที่ทางรพ.รามาธิบดีได้คิดและผลิตเป็นเวชภัณฑ์สำหรับดูดน้ำมูกเด็ก ชื่อว่า MU-TIP จะนิ่มเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด สามารถใส่น้ำเกลือข้างหนึ่ง และดูดน้ำมูกอีกข้างหนึ่งได้เลย แต่ถึงมีอุปกรณ์แล้วก็ต้องมีวิธีการทำ และต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการล้างจมูกเด็กแรกเกิดเพื่อความปลอดภัย
คำถามที่ 6 ทำไมต้องล้างจมูก? และควรล้างบ่อยแค่ไหน?
แนะนำให้ล้างจมูก เพราะการล้างจมูกเป็นการล้างทำความสะอาดชะล้างสิ่งสกปรกที่ยังคงค้างอยู่ในโพรงจมูกที่เป็นทั้งน้ำมูก น้ำหนอง เลือดในโพรงจมูกให้เคลียร์ และโล่งขึ้น
โดยทั่วไปจำนวนครั้งในการล้างจมูกขั้นต่ำประมาณ 2 ครั้งต่อวัน คือ ช่วงเช้า และก่อนนอน หรือตอนที่มีอาการคัดจมูก แน่นจมูก ก็สามารถทำได้บ่อยไม่จำกัดจำนวนครั้ง
คำถามที่ 7 ใช้น้ำอะไรในการล้างจมูก?
น้ำที่นำมาใช้ในการล้างจมูกควรเป็นน้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 0.9% เพราะมีความเข้มข้นใกล้เคียงกับน้ำในเซลล์ร่างกาย ความเข้มข้นเดียวกับเลือด ไม่ควรใช้น้ำเปล่าหรือน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นต่ำกว่า 0.9 % มาล้างจมูก เพราะจะทำให้ระคายเคืองจมูกเพิ่มขึ้นและอาจมีการอักเสบ แสบจมูก และมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้นด้วย
คำถามที่ 8 ใช้เกลือที่บ้านมาละลายน้ำใช้ล้างจมูกได้ไหม?
สามารถทำได้ แต่ต้องใช้เกลือสะอาด 4.5 กรัม และน้ำสะอาด 750 cc. ผสมรวมกัน และข้อสำคัญคือต้องเน้นเรื่องความสะอาด จึงต้องมีวิธีขั้นตอนในการผสม เพราะหากไม่สะอาดพออาจทำให้ติดเชื้อได้ ควรใช้ภายใน 24 ชั่วโมง และต้องใช้ครั้งเดียวทิ้ง ไม่สามารถเก็บได้ ป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะไม่มีสารกันเสีย
คำถามที่ 9 น้ำเกลือสำเร็จรูปที่มีขายทั่วไป สามารถเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้ไหม?
น้ำเกลือขวดสำเร็จรูปถ้าเวลาใช้ ถ้าเทถ่ายใส่ภาชนะอื่นก่อนใช้ ก็สามารถเก็บน้ำเกลือขวดไว้ใช้ต่อได้ หรือถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นก็สามารถยืดประสิทธิภาพของน้ำเกลือให้เก็บไว้ใช้ได้นานขึ้น
คำถามที่ 10 วิธีทำน้ำเกลือไว้ใช้เองอย่างถูกวิธี ทำอย่างไร?
ต้มน้ำให้เดือดเพื่อฆ่าเชื้อ 750 ซีซี ผสมเกลือป่น 1ช้อนชาปาดหรือ ประมาณ 4.5 กรัม คนให้ละลาย ต้มให้เดือดแล้วปิดไฟ ตั้งทิ้งไว้ให้อุ่นก่อนใช้ เก็บไว้ใช้ได้เพียง 1 วัน ที่เหลือควรทิ้งไป เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค
คำถามที่ 11 ต้องเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการล้างจมูกอะไรบ้าง?
- น้ำเกลือเข้มข้น 0.9%สำหรับล้างจมูก(0.9%Normal Saline)
- Syringe (กระบอกฉีดยา)ขนาด 10-20 cc.
- จุกล้างจมูก (ถ้ามี)
- ภาชนะสำหรับใส่น้ำเกลือ เทน้ำเกลือจากขวดออกมาก่อนจะได้เก็บน้ำเกลือที่เหลือไว้ใช้ต่อได้
คำถาที่ 12 ขั้นตอนการล้างจมูกสำหรับเด็กทั่วไปเป็นอย่างไร?
- ล้างมือ และอุปกรณ์ทุกอย่างให้สะอาด
- เทน้ำเกลือ หรือดูดน้ำเกลือเข้ากระบอกฉีดยา
- สวมจุกล้างจมูกที่ปลายกระบอกฉีด
- กลั้นหายใจ ก้มหน้า อ้าปาก ค่อย ๆ ฉีดน้ำเกลือเข้ารูจมูก น้ำเกลือจะไหลเข้าไปในโพรงจมูก และไหลออกทางรูจมูกอีกด้าน หรืออาจลงลำคอ
- สั่งน้ำมูก และทำซ้ำอีกจนสังเกตได้ว่าหายใจสะดวกขึ้น
คำถาที่ 13 การล้างจมูกช่วยเรื่องโรคภูมิแพ้จริงไหม?
ประโยชน์ของการล้างจมูก คือ การช่วยลดความเหนียวข้นของน้ำมูก ก็เป็นการช่วยลดอาการคัดแน่นในโพรงจมูก ที่เป็นอาการหนึ่งของโรคภูมิแพ้ ก็นับว่าเป็นการช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้
คำถามที่ 14 ข้อควรระวังในการล้างจมูกมีอะไรบ้าง?
สิ่งที่ควรระวังในการล้างจมูกอย่างเดียวเลย คือ ระวังการสำลัก อาจเริ่มจากการกลั้นหายใจก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณของน้ำเกลือทีละน้อย และอาจจะดูเรื่องอุณหภูมิของน้ำเกลือ ยิ่งโดยเฉพาะบ้านไหนที่เก็บน้ำเกลือไว้ในตู้เย็น อาจจะต้องอุ่นน้ำเกลือให้มีอุณหภูมิปกติ อุณหภูมิห้องก่อน เพราะเด็กอาจจะตกใจความเย็นแล้วด้วยสัญชาตญาณจะหายใจเข้าไปก็อาจจะเกิดการสำลักได้ และการใช้น้ำเกลือที่ไม่ได้อุ่นล้างจมูก อาจทำให้เกิดการคัดจมูกหลังการล้างได้
คำถามข้อที่ 15 ทำไมลูกล้างจมูกแล้วมีอาการปวดหู?
เวลาล้างจมูก เมื่อฉีดน้ำเกลือเข้าจมูกแล้ว ต้องทำการสั่งน้ำมูกออกมา ในขั้นตอนนี้ ให้ลูกสั่งน้ำมูกออกมาจากจมูกทั้งซ้ายขวาพร้อมกันโดยไม่ต้องอุดรูจมูกอีกข้าง เพราะจะทำให้มีอาการปวดหูได้ ให้ลูกบ้วนน้ำเกลือ น้ำมูกและเสมหะออกมา แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กบ้วนไม่เป็น ก็จะกลืนลงหลอดอาหาร แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเชื้อโรคจะถูกกำจัดในกระเพาะอาหารเอง
ขอขอบคุณคลิปวิดีโอ และข้อมูลอ้างอิง จาก RAMA CHANNAL/ FB:สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่