ตาห่างแต่กำเนิด รักษาได้หรือไม่?
ภาวะตาห่างแต่กำเนิด ถือเป็นหนึ่งในความผิดปกติบนใบหน้าที่ติดตัวลูกมาตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งเด็กบางคนที่พบว่ามีกระบอกตาห่างมากจนใบหน้าผิดรูป ซึ่งการรักษาจำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อให้การรักษาได้ผลดีที่สุด
นพ.เสรี เอี่ยมผ่องใส และนพ.นนท์ โรจน์วชิรนนท์ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ2 ได้ให้ความรู้ในการรักษาภาวะกระบอกตาห่างแต่กำเนิด ไว้ดังนี้
- ก่อนที่จะเริ่มต้นการรักษา ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยหาโรคอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะนี้
- จากนั้นจะต้องมีการวางแผนการรักษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญแบบสหสาขาวิชา (multidisciplinary team care) เพื่อให้การรักษาได้ผลดีที่สุด
- การรักษาจะเริ่มต้นด้วยการรักษาโรคที่เป็นต้นเหตุก่อน และอาจจะทำการแก้ไขภาวะกระบอกตาห่างในคราวเดียวกันถ้าทำได้ หรือ รอทำแยกในช่วงอายุที่เหมาะสม
- การผ่าตัดที่จะสามารถทำได้ คือ การเคลื่อนย้ายกระบอกตาทั้งสองข้างเข้าหากัน (medial orbital translocation) จะทำในช่วงอายุ 2-5 ขวบ
- ถ้าในเด็กที่เป็นภาวะกระบอกตาห่างมีอาการไม่รุนแรง และไม่พบว่ามีความผิดปกติของสายตา ก็จะรอจนกว่าเด็กอายุ 4-5 ขวบ จึงจะผ่าตัดเคลื่อนย้ายกระบอกตา เพราะการผ่าตัดชนิดนี้ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ และอันตรายมาก เพราะมีการเสียเลือดมาก2
ซึ่งการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดกับเด็กที่มีภาวะกระบอกตาห่างแต่กำเนิด จำเป็นต้องได้รับการรักษาตั้งแต่เบื้องต้น คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยอาการอย่างละเอียด เพราะหากปล่อยไว้ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อพัฒนาการทางร่างกายของลูก โดยเฉพาะในเรื่องของสายตา การรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยลดปัญหาด้านการใช้สายตา และช่วยให้ใบหน้าที่ผิดรูปกลับมาเป็นปกติมากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยในเรื่องของจิตใจที่จะไม่ทำให้ลูกรู้สึกว่าแตกต่างจากเพื่อนๆ วัยเดียวกัน ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขได้ต่อไปในอนาคต ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก!
ทารกขาดวิตามินบี 12 เสียชีวิต เพราะแม่รักสุขภาพกินแต่ผัก
อาการนอนผวาในทารก สาเหตุ และวิธีแก้ไข
รู้ทัน ภาวะซีดในทารก ก่อนลูกขาดธาตุเหล็กรุนแรง
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
1,2นพ.เสรี เอี่ยมผ่องใส นพ.นนท์ โรจน์วชิรนนท์.ภาวะกระบอกตาห่างแต่กำเนิด. ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ craniofacial