คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านย่อมเคยปวดท้องกันแน่นอนอยู่แล้ว หลาย ๆ ครั้ง แค่เราซื้อยามากินก็หายได้ แต่ถ้ากินยาที่เคยกินแล้วไม่หายล่ะจะทำอย่างไร? จริง ๆ แล้ว เวลาปวดท้องแต่ละคนอาจปวดในจุดที่แตกต่างกัน ตำแหน่งปวดท้อง บอกโรค ได้ เพราะฉะนั้นเราควรสังเกตตัวเองนะคะ วันนี้ก็มีจุดปวดท้องที่น่าสังเกตมาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
7 ตำแหน่งปวดท้อง บอกโรค
พญ.สกุณี ภระกูลสุขสถิตย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับตำแหน่งของการปวดท้องแต่ละตำแหน่ง ว่าบ่งบอกว่าเราอาจเป็นโรคต่าง ๆ ไว้ ดังนี้
ขวาช่วงบน
โรคที่กิดจากตับ ถุงน้ำดี ลำไส้ที่อยู่บริเวณนี้และไตขวา เช่น ตับอักเสบ นิ่วในถุงน้ำดี กรวยไตขวาอักเสบ นิ่วในไตขวา เป็นต้น
หากกดแล้วเป็นก้อนแข็ง ๆ บวกกับอาการตัวเหลือง หมายถึงความบกพร่องของตับ และถุงน้ำดี หากปวดมากควรรีบพบแพทย์
ขวาช่วงล่าง
โรคที่เกิดจากไส้ติ่ง ลำไส้ที่อยู่บริเวณนี้ ปีกมดลูกด้านขวา เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ปีกมดลูกขวาอักเสบ เป็นต้น อาการ ได้แก่
- ปวดเกร็งเป็นระยะๆ แล้วร้าวมาที่ต้นขา เป็นอาการกรวยไตอักเสบ หรือนิ่วท่อไต ควรรีบพบแพทย์
- ปวดเสียด บีบ ตลอดเวลา กดแล้วเจ็บมากบริเวณท้องน้อยด้านขวา อาจจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ
- ปวดร่วมมีไข้สูง มีตกขาว อาการของปีกมดลูกอักเสบ
- คลำแล้วเจอก้อนเนื้อ อาการก้อนไส้ติ่งอักเสบ หรือรังไข่ผิดปกติ
ใต้ลิ้นปี่
โรคที่เกิดจากกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร ถุงน้ำดี เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ กรดไหลย้อน นิ่วในถุงน้ำดี เป็นต้น อาการคือ
- ปวดใต้ลิ้นปี่ร่วมกับเจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก อาจจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด
- ปวดเป็นประจำเวลาหิว หรืออิ่ม อาจเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร หากปวดรุนแรง หรืออาเจียนด้วยอาจเป็นตับอ่อนอักเสบ
- หากคลำเจอก้อนเนื้อขนาดใหญ่ และแข็งแสดงว่าตับโต หรือหากคลำได้ก้อนสามเหลี่ยมแบนเล็ก ๆ อาจเป็นกระดูกลิ้นปี่
- หากอืดแน่นท้องเป็น ๆ หาย ๆ เป็นเวลานาน อาจเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
รอบสะดือ
โรคที่เกิดจากลำไส้เล็ก อาจเกิดจากลำไส้อักเสบ มักจะมีอาการปวดบิด ถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน และเป็นอาการเริ่มปวดท้องของไส้ติ่งอักเสบได้ (ค่อนจะย้ายไปปวดบริเวณด้านขวาช่วงล่าง) หากกดแล้วปวดมาก ปวดจนทนไม่ไหวให้พบแพทย์ทันที
เหนือหัวหน่าว
โรคที่เกิดจากกระเพาะปัสสาวะ มดลูก เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มดลูกอักเสบ เนื้องอกมดลูก เป็นต้น อาจมีอาการ ดังนี้
- ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปวดเวลาปัสสาวะ อาจเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
- ปวดท้องน้อย มีไข้สูง ตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจจะเป็นมดลูกอักเสบ
- ปวดเกร็งเวลามีประจำเดือน มีอาการปวดเรื้อรัง แสดงว่ามดลูกมีปัญหา ควรรีบพบแพทย์
ซ้ายช่วงบน
โรคที่เกิดจากกระเพาะอาหาร ม้าม ตับอ่อน ลำไส้ที่อยู่บริเวณนี้และไตช้าย เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ ม้ามแตก กรวยไตช้ายอักเสบ นิ่วในไตช้าย เป็นต้น
ข้ายช่วงล่าง
โรคที่เกิดจากลำไส้ที่อยู่บริเวณนี้ ปีกมดลูกด้านซ้าย เช่น ลำไส้อักเสบปีกมดลูกซ้ายอักเสบ เป็นต้น
ขอบคุณ ภาพ จาก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ปวดท้องแบบใดที่ต้องพบแพทย์
หากมีอาการปวดท้องลักษณะต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์
- ปวดนานมากกว่า 6 ชั่วโมง แล้วอาการเป็นมากขึ้น
- ปวดจนกินอาหารไม่ได้
- ปวดท้อง และอาเจียนอย่างมาก มากกว่า 3-4 ครั้ง
- ปวดท้องมากขึ้นเมื่อขยับตัว
- ปวดที่บริเวณท้องน้อยด้านขวา
- ปวดท้องรุนแรง นอนไม่ได้
- ปวดร่วมกับเลือดออกจากช่องคลอด
- ปวดท้อง มีไข้ร่วมด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลขอนแก่น ราม
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก