ปากมดลูก สำคัญไฉนกับวัคซีนมะเร็งปากมดลูก 9สายพันธุ์ - Amarin Baby & Kids
วัคซีนมะเร็ง ปากมดลูก 9 สายพันธุ์

ปากมดลูก สำคัญไฉนกับวัคซีนมะเร็งปากมดลูก 9สายพันธุ์

Alternative Textaccount_circle
event
วัคซีนมะเร็ง ปากมดลูก 9 สายพันธุ์
วัคซีนมะเร็ง ปากมดลูก 9 สายพันธุ์

ปากมดลูก ส่วนหนึ่งของร่างกายผู้หญิงที่ทุกคนควรใส่ใจ ทำความรู้จัก รักษา ป้องกันสุขภาพปากมดลูกด้วย วัคซีนมะเร็งปากมดลูก 9 สายพันธุ์ ครอบคลุม หายห่วงโรคร้าย

ปากมดลูก สำคัญไฉนกับวัคซีนมะเร็งปากมดลูก 9สายพันธุ์

ปากมดลูกคือ ส่วนของอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงที่ต่อจากมดลูกในช่องท้องโผล่ยื่นออกในช่องคลอด ปากมดลูกเป็นทางผ่านของเลือดประจำเดือน ซึ่งมาจากมดลูกและไหลออกมาภายนอกผ่านช่องคลอด ขณะมีเพศสัมพันธ์น้ำอสุจิจะไปอยู่ในช่องคลอดเข้าไปสู่มดลูกทางปากมดลูก เมื่อเกิดการปฏิสนธิกับไข่ของคุณผู้หญิงจะทำให้เกิดทารกน้อยๆ อาศัยในโพรงมดลูก และคลอดออกมาทางช่องคลอดเมื่อครบกำหนด

ผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติ!!

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยการตรวจทางเซลล์วิทยาหรือ PAPSMEAR เป็นการตรวจเพื่อหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก และทำการสืบค้นหาให้ได้รอยโรคที่แท้จริงบนปากมดลูกที่เป็นต้นเหตุของความผิดปกติที่ตรวจพบ หากตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแล้วพบว่าผลผิดปกติ อย่าเพิ่งตกใจ!!

ปากมดลูก นั้นสำคัญไฉน
ปากมดลูก นั้นสำคัญไฉน

ผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติไม่ใช่ต้องเป็นมะเร็งทุกราย

สาเหตุของความผิดปกติของปากมดลูกจากผลการตรวจคัดกรอง อาจเกิดจาก

  1. ภาวะปากมดลูกอักเสบ ที่เกิดจากการติดเชื้อรา แบคทีเรีย หรือเชื้อพยาธิในช่องคลอด
  2. ภาวะการติดเชื้อไวรัสก่อมะเร็งปากมดลูก – HPV พบได้บ่อย ส่วนใหญ่ไม่มีอาการผิดปกติ แต่จะตรวจพบก็ต่อเมื่อมีการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น บางรายอาจจะทำให้เกิดรอยโรคเป็นหูดหงอนไก่หรือบางรายเชื้อไวรัสนี้อาจจะกระตุ้นเซลล์เยื่อบุปากมดลูกให้มีการแบ่งตัวผิดปกติ และกลายเป็นมะเร็งได้ในอนาคต
  3. เซลล์ปากมดลูกผิดปกติ เป็นรอยโรคระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก เซลล์ผิดปกติเหล่านี้ (HSIL, LSIL) ยังไม่ได้เป็นเซลล์มะเร็ง แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ทำการตรวจรักษา อาจจะกลายเป็นมะเร็งได้ในภายหลัง
  4. ภาวะช่องคลอดแห้งการขาดฮอร์โมนเพศ พบบ่อยในวัยหมดประจำเดือน ทำให้ผนังเยื่อบุปากมดลูกบางลง แห้งและอักเสบ

ทำความรู้จัก HPV เชื้อก่อมะเร็งที่พบได้บ่อย

Human Papillomavirus (HPV) เป็น DNA ไวรัสที่ได้รับมาจากการสัมผัสโดยตรง (Direct Contact) จากการมีเพศสัมพันธ์ (Sexual Transmission Infection) ซึ่งจากการค้นพบในปัจจุบัน พบมากกว่า 140 type โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เซลล์ปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะก่อนเป็นมะเร็งถึงเป็นมะเร็ง (High Risk HPV) ซึ่งมีชื่อเป็นหมายเลขของ HPV High Risk type 16, 18, 31, 33, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 68, 35, 66 ส่วนที่เหลือเป็น Low Risk HPV ซึ่งในกลุ่มนี้ No. 6, 11 สามารถทำให้เป็นโรคหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

นอกจากนี้ HPV เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดมะเร็งและยังทำให้เกิดมะเร็งบริเวณที่อื่น ๆ ได้ เช่น มะเร็งช่องคลอด, มะเร็งทวารหนัก (ในชายรักร่วมเพศ), มะเร็งช่องปากและลำคอ และมะเร็งอวัยวะเพศชาย ทั้งนี้การเกิดมะเร็งขึ้นกับภูมิร่างกายของคนที่ได้รับเชื้อ HPV ด้วย ถ้าภูมิร่างกายต่ำ เช่น เป็น Immunocompromised เช่น HIV, SLE  อาจทำให้มีการพัฒนาเซลล์เปลี่ยนในระยะก่อนเป็นมะเร็งเป็นมะเร็งได้เร็วขึ้น (น้อยกว่า 10 ปี)

ตรวจคัดกรองมะเร็ง ปากมดลูก ช่วยป้องกันก่อนเกิดโรคร้าย
ตรวจคัดกรองมะเร็ง ปากมดลูก ช่วยป้องกันก่อนเกิดโรคร้าย

คนส่วนใหญ่ได้ HPV High Risk แล้วสามารถ Clearance (ขจัดออกไปได้) โดยใช้เวลาเฉลี่ย 8 เดือนในภูมิคุ้มกันดีมาก และสามารถขจัดออกได้ถึง 70% ใน 1 ปี แต่ถ้ายังตรวจพบ HPV High Risk มากกว่า 2 ปี พบว่ามีความเสี่ยงที่จะพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูกในกลุ่ม High Risk Type 16, 18 ถึง 200 – 400 เท่า และ HPV  Other High Risk 30 – 40 เท่า

ไม่มียารักษา HPV!!

ไวรัส HPV ไม่เพียงแต่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก แต่ยังไม่มียาที่สามารถรักษาได้หายขาด การฉีดวัคซีนป้องกัน  HPV จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณผู้หญิงไม่ควรละเลย โดยเฉพาะวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

วัคซีนมะเร็งปากมดลูก 9 สายพันธุ์

เชื้อเอชพีวีมีอยู่ร้อยกว่าชนิด แต่ที่จะทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกก็มีประมาณ 15 ชนิด โดยเบอร์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุร้อยละ 70 ของมะเร็งปากมดลูก ที่เหลือร้อยละ 30 เกิดจากไวรัสเอชพีวีชนิดอื่น (เบอร์อื่น)

ปัจจุบันเรามีวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่

  1. วัคซีนมะเร็งปากมดลูก ชนิด 2 สายพันธุ์ ชื่อ CERVARIX ซึ่งจะป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ High Risk 16,18   
  2. วัคซีนมะเร็ง ปากมดลูก ชนิด 4 สายพันธุ์ ชื่อ GARDASIL ซึ่งจะป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ High Risk 16 ,18 Low Risk  6,11 หูดหงอนไก่
  3.  วัคซีนมะเร็งปากมดลูก ชนิด 9 สายพันธุ์ชื่อ Human Papillomavirus 9 – Valent Vaccine ซึ่งจะป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ 6, 18, 31, 33, 45, 52, 58 (เพิ่มมาอีก 5 สายพันธุ์)  Low Risk  6,11 หูดหงอนไก่
ฉีดวัคซีน แต่ก็ยังต้องเข้ารับการตรวจภายในประจำปี
ฉีดวัคซีน แต่ก็ยังต้องเข้ารับการตรวจภายในประจำปี

โปรแกรมการวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ชนิด 9 สายพันธุ์                      

การฉีดวัคซีน HPV มีโปรแกรมการฉีด ดังนี้

             ถ้าฉีดเข็มแรกก่อนอายุ 15 ปี ฉีดเพียง 2 เข็ม ห่างกัน 6 – 12 เดือน

             ถ้าฉีดเข็มแรกหลังอายุ 15 ปีเป็นต้นไป ฉีด 3 เข็ม ฉีดเป็น 0, 2, 6 หรือ 0, 1, 6

การฉีดวัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์นั้น มีข้อกำหนด และโปรแกรมการฉีดวัคซีนไม่แตกต่างจาก วัคซีนชนิด 2 และ 4 สายพันธุ์ เพราะยังใช้ Program Recommend เหมือนเดิมคือ ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 – 45 ปี อายุที่เหมาะสมนั้นแล้วแต่เชื้อชาติ และอายุการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ซึ่งถ้าจะป้องกันให้ได้ประสิทธิภาพดี ควรฉีดตั้งแต่ยังไม่เริ่มมีเพศสัมพันธ์ เช่น ในอเมริกาเริ่มที่อายุ 9 ปี ในอังกฤษเริ่มที่อายุ 11 ปี ในประเทศไทยแล้วแต่ความพร้อม โดยมากฉีดก่อนเข้ามหาวิทยาลัย หรือก่อนอายุที่จะเริ่มมีเพศสัมพันธ์

เคยฉีดวัคซีน HPV 2 หรือ 4 สายพันธุ์แล้ว ยังต้องฉีดชนิด 9 สายพันธุ์ไหม??

มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกชนิด 2 หรือ 4 สายพันธ์ุ มาแล้ว ควรเว้นระยะการฉีดมากกว่า 1 ปี จะมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยมากกว่า ความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องจุดมุ่งหมายของวัคซีนแบบ 2 สายพันธุ์ และ 4 สายพันธุ์  คือ ป้องกันการติดเชื้อชนิด High Risk และป้องกันหูดหงอนไก่ จาก Low Risk  เป็นการป้องกันที่ให้ผล 70% ไม่ใช่ 100% เพราะฉะนั้นการฉีดแบบ 9 สายพันธุ์จะทำให้ครอบคลุม HPV High Risk ที่มีส่วนที่ทำให้เป็นระยะก่อนเป็นมะเร็ง และมะเร็งได้มากขึ้น แต่ก็ยังคงมีความจำเป็นที่ต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกต่อไป

ปากช่องคลอด กับโรคร้าย
ปากช่องคลอด กับโรคร้าย

เรื่องน่ากลัวของมะเร็งปากมดลูก!!

สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องน่ากลัวของมะเร็ง ปากมดลูก คือ ในระยะก่อนมะเร็งปากมดลูก จะไม่มีอาการใดๆ และแม้ว่าผู้ที่เป็นมะเร็งปากมดลูกที่เป็นไม่มากก็ไม่แสดงอาการเช่นกัน ดังนั้นถ้าไม่มาตรวจภายในประจำปี แล้วรอมาพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น  เลือดออกทางช่องคลอด ตกขาวกลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็อาจสายไป เพราะแสดงว่าได้เกิดโรคขึ้นมาแล้ว และเป็นมากแล้ว จึงอยากเน้นอีกทีว่า เราจะต้องตระหนักว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่ป้องกันได้ และต้องเห็นความสำคัญของการมาตรวจภายในประจำปี เพราะแม้จะได้รับวัคซีนป้องกันแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงต้องได้รับการตรวจภายใน ที่สามารถช่วยบอกให้เราทราบถึงความผิดปกติก่อนเกิดโรคได้

ข้อมูลอ้างอิงจาก www.rama.mahidol.ac.th/www.bangkokhospital.com/www.khonkaenram.com

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ปากมดลูกเปิดเป็นยังไง แม่ท้องรู้ไว้ก่อนเข้าห้องคลอด!

โรคมือเท้าปาก อาการ เริ่มต้น เฝ้าระวังเชื้อใหม่แรงกว่าเดิม

ระวัง! ไข้เลือดออกระบาด รุนแรง เด็ก 15 ปี เสียชีวิตแล้ว

วิจัยเผย! “แปรงสีฟัน” แหล่งสะสมเชื้อโรค เสี่ยงลูกเป็นโรคช่องปาก

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up