3ข้อรู้ไว้ห่างไกลมะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก โรคร้ายอันดับ3 ของผู้หญิง - Page 2 of 2 - Amarin Baby & Kids
มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก

3ข้อรู้ไว้ห่างไกลมะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก โรคร้ายอันดับ3 ของผู้หญิง

Alternative Textaccount_circle
event
มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก
มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งอันดับ 3 ที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย!!

อาการของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

อาการที่พบได้บ่อยที่สุดในมะเร็งชนิดนี้คือ การมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด โดยเฉพาะในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนไปแล้วแต่ยังมีเลือดออกมาเป็นครั้งคราว หรือผู้หญิงที่ยังไม่หมดประจำเดือนที่มีเลือดออกผิดปกติในระหว่างรอบประจำเดือน อาการเหล่านี้เองเป็นสิ่งผิดปกติที่มักนำผู้ป่วยมาพบแพทย์

อาการอื่นที่อาจพบร่วมได้ เช่น ปวดท้องน้อย คลำพบก้อนบริเวณท้องน้อย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อยเพลีย ปวดหลังหรือปวดขา เป็นต้น

มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งร้ายอันดับ 3
มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งร้ายอันดับ 3

การแบ่งระยะมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

แพทย์สามารถบอกระยะของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้จากการตรวจร่างกายและตรวจภายในโดยละเอียด รวมไปถึงการผ่าตัดเบื้องต้นเพื่อวิเคราะห์ระยะที่ถูกต้อง โดยภาพรวมระยะของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกสามารถแบ่งได้ดังนี้

  • ระยะที่ 1 มะเร็งอยู่ภายในมดลูกเท่านั้น
  • ระยะที่ 2 มะเร็งลุกลามไปยังปากมดลูก
  • ในระยะที่ 3 มะเร็งลุกลามไปยังผิวชั้นนอกมดลูก ปีกมดลูก ช่องคลอด ต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกรานและช่องท้อง
  • ในระยะที่ 4 มะเร็งลุกลามกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ หรือแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น

การรักษามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

วิธีการรักษามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกประกอบด้วย การผ่าตัด รังสีรักษาและเคมีบำบัด โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. การผ่าตัด เป็นการรักษาเบื้องต้นและผลการผ่าตัดสามารถบอกระยะของโรคได้อย่างถูกต้อง โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดมดลูกและปีกมดลูกทั้ง 2 ข้างเพื่อพิจารณาโอกาสที่มะเร็งจะมีการแพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลือง หลังจากนั้นจะเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณอุ้งเชิงกรานและในช่องท้องสำหรับผู้ป่วยบางรายที่มีความเสี่ยงดังกล่าว เมื่อทราบผลการตรวจแล้วแพทย์จะสามารถบอกระยะของโรคที่ถูกต้องรวมถึงวางแผนการรักษาต่อไปได้
2. รังสีรักษา ซึ่งประกอบด้วยการฉายรังสีและการฝังแร่ ถูกใช้เป็นการรักษาเสริมหลังจากผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดเพื่อลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำในผู้ป่วยบางรายที่มีความเสี่ยง การรักษาโดยวิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 2 เดือน และอาจมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย
3. เคมีบำบัด แพทย์จะพิจารณาให้เคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกที่มีการแพร่กระจายหรือมีความเสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำสูงเช่น ผู้ป่วยระยะที่ 4 หรือระยะที่ 3 บางราย การรักษาวิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 6 เดือน ผู้ป่วยบางรายอาจได้รับเคมีบำบัดควบคู่ไปกับรังสีรักษา ผลข้างเคียงทั่วไปจากการได้รับเคมีบำบัดเช่น คลื่นไส้หรืออาเจียน มือเท้าชาและผมร่วง จะได้รับการการดูแลจากแพทย์ผู้รักษา ทำให้ผู้ป่วยสามารถรับการรักษาต่อเนื่องไปได้เป็นอย่างดี

การป้องกันมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

ยังไม่มีวิธีการป้องกันการเกิดมะเร็งชนิดนี้ได้อย่างสมบูรณ์  อ

3 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก
3 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก

ย่างไรก็ตามผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสามารถดูแลรักษาตนเองเพื่อลดโอกาสเกิดมะเร็งชนิดนี้ได้ วันนี้เราขออนุญาตหยิบยกความรู้ดี ๆ จาก “หมอออ” พญ.กรพินธุ์ รัตนสัจธรรม จบการศึกษาจากแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2546 (เกียรตินิยม) ปัจจุบันเป็นสูติแพทย์ เฉพาะทางมะเร็งนรีเวชและผ่าตัดส่องกล้อง ที่รพ. สมิติเวชชลบุรี คุณหมอได้กรุณาให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งโพรงมดลูก ในเรื่อง “ไม่อยากเป็นมะเร็งโพรงมดลูกให้ทำ 3 สิ่งนี้!!” ทางเพจของคุณหมอ Doctor ออ ,Woman expert  จึงขอสรุปไว้คร่าว ๆ ดังนี้

ข้อที่ 1 ลดน้ำหนัก

มะเร็ง เยื่อบุโพรงมดลูก แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามสาเหตุคือ มะเร็งที่สัมพันธ์กับการกระตุ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนและมะเร็งที่ไม่สัมพันธ์กับฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นระยะเวลา นาน ๆ โดยไม่ได้ให้ฮอร์โมนโปรเจสติน จะกระตุ้นเยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาตัวผิดปกติจนกลายเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้

รู้หรือไม่?? ไขมันในร่างกาย สามารถเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ ดังนั้น การที่คุณมีน้ำหนักเกิน อ้วน หรืออวบ ร่างกายจะมีไขมันมากเกินปกติ ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งโพรงมดลูกได้ การควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน การออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้

ข้อควรระวัง ยาบำรุงมดลูก ยาสตรีที่สรรพคุณบำรุงมดลูก เป็นยาชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ ทำให้ไปสร้างปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดมะเร็งโพรงมดลูกได้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องรับประทาน

ข้อที่ 2 หากประจำเดือนขาดเกิน 3 เดือน ควรไปพบแพทย์ตรวจละเอียด

ปัจจัยที่ทำให้ประจำเดือนขาด ได้แก่

  • ภาวะการตั้งครรภ์ที่สามารถเกิดประจำเดือนไม่มา หรือผู้ที่ให้นมบุตร
  • เกิดได้กับผู้ที่เริ่มเข้าสู่วัยทองโดยปกติแล้วจะพบในช่วงอายุ 45 ปี ขึ้นไป
  • เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายที่ไม่สมดุล เช่น เทสโทสเตอโรนสูง และฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ

ซึ่งปัจจัยข้อที่สาม การที่ประจำเดือนไม่มาจากฮอร์โมนจำเป็นต้องได้รับการตรวจละเอียดจากคุณหมอ เพื่อหาสาเหตุ และทำการรักษาหากการที่ประจำเดือนมาผิดปกตินำไปสู่การเกิดมะเร็งโพรงมดลูก

ข้อที่ 3 เข้ารับการตรวจหามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกเป็นประจำ

การได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ตั้งแต่พบสารก่อเชื้อมะเร็งจะนำไปสู่การรักษาอย่างรวดเร็ว และมีโอกาสสูงที่จะหาย ไม่เป็นอันตราย หรือแม้แต่ยังไม่ก่อตัวเป็นก้อนเนื้อมะเร็งได้ การเข้ารับการตรวจเป็นประจำต่อเนื่องจึงเป็นปัจจัยช่วยลดโอกาสเสี่ยงการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ดี

มะเร็งร้าย เกี่ยวข้องกับอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิง
มะเร็งร้าย เกี่ยวข้องกับอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิง

อาการเด่นชัดที่ควรไปพบแพทย์

  1. ผู้หญิงวัยทอง ที่ประจำเดือนขาดเกิน 1 ปี แล้ว แต่กลับมีเลือดออกทางช่องคลอด เป็นอาการแสดงถึงความผิดปกติ ควรได้รับการตรวจวินิจฉัย
  2. ผู้หญิงที่มีอายุ เกิน 40 ปี แล้วมีเลือดออกนอกรอบเดือน
  3. ผู้หญิงที่มีเลือดออกกระปริบกระปรอย แม้ว่าจะรับการรักษาด้วยยาปรับฮอร์โมนแล้วยังไม่ดีขึ้น
  4. ผู้ที่มีความเสี่ยงโรคมะเร็งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่

โดยสรุป ผู้ป่วยมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกส่วนมาก เบื้องต้นผู้ป่วยควรหาข้อมูลที่เหมาะสมและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อจะได้วางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม หลังเข้ารับการรักษาแล้วผู้ป่วยต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์และเข้ารับการตรวจติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.si.mahidol.ac.th/https://www.bumrungrad.com/https://www.petcharavejhospital.com/http://www.tgcsthai.com

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

10 แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมก่อนมีลูก

5 มะเร็งในผู้หญิง ที่เสี่ยงเป็นกันมาก

ได้ยามาต้องรู้!! บน ฉลากยา ต้องมีอะไรบ้างก่อนให้ลูกกิน

ฝันว่าจับปลา หมายความว่าอย่างไร เลขเด็ดนำโชค

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up