รู้ได้อย่างไรว่าไม่ได้เป็นอย่างอื่น?
ผู้ที่มีอาการหูอักเสบเฉียบพลัน มีอาการปวดหู หูอื้อ และมีไข้สูงร่วมด้วย ส่วนมากจะเกิดจากไข้หวัด ในเด็กเล็กอาจมีร้องกวนร่วมด้วย แต่ก็อาจเกิดขึ้นมาจากหลายสาเหตุ เช่น
1.มดหรือแมลงเข้าหู จะมีอาการปวดหูข้างเดียวรุนแรงเฉียบพลัน รู้สึกว่ามีตัวอะไรในหู
2.หูชั้นนอนอักเสบ จะมีอาการปวดหู เวลาดึงใบหูจะรู้สึกเจ็บมาก มักเป็นหลังจากใช้ไม้แคะหู
3.โรคเชื้อราในช่องหู จะมีอาการหูอื้อ คันในช่องหูมาก บางครั้งอาจปวดหูร่วมด้วย ให้ใช้ไม้พันสำลีชุบทิงเจอร์ใส่แผลสด เช็ดวันละ 3 – 4 ครั้ง ก็มักจะดีขึ้นใน 2 – 3 วัน
4.ขี้หูอุดตันรูหู จะมีอาการหูอื้อ และปวดหูร่วมด้วย ซึ่งมักจะเป็นทันทีหลังเล่นน้ำ สระผม น้ำเข้าหู เนื่องจากขี้หูอุ้มน้ำ พองจนอุดรูหู จะรู้สึกว่าเหมือนมีน้ำเข้าหู
การรักษานั้น จะต้องรักษาควบคู่ไปกับโรคหวัด โดยแพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อแก้อักเสบ ร่วมกับยาลดน้ำมูก ยาแก้ไข้ ยาแก้ปวด ยาแก้ไอ และยาหยอดหูฆ่าเชื้อ การรักษาจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ในระหว่างนี้ห้ามให้น้ำเข้าหู ห้ามปั่นหู ห้ามแคะหู ถ้ามีน้ำหนวกไหลออกมามาก คุณหมอจะใช้เครื่องดูดน้ำหนวก เพื่อลดอาการหูอื้อ ทำให้การได้ยินดีขึ้น อาจใช้สำลีเช็ดน้ำหนวกออกได้เองแต่เพียงภายนอก ถ้ารักษาได้ถูกต้อง น้ำหนวกจะลดลงได้เองภายใน 2 – 3 วัน ส่วนแก้วหูที่ทะลุส่วนใหญ่ เมื่อการอักเสบหายแล้ว จะปิดได้เองใน 2 – 4 สัปดาห์
อาการหวัดในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เหมือนสมัยก่อน อย่าคิดว่าจะหายได้เองเสมอไป คุณพ่อ คุณแม่อย่าประมาท เพราะว่าถ้าลูกน้อยเป็นหวัดแล้วรักษาไม่ดี ปล่อยให้โรคลุกลามจนมีอาการแทรกซ้อนจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เช่น อาการหูอักเสบ เพราะหวัดขึ้นหู หากมีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นหูดับได้ และถ้าเชื้อลงไปที่ปอด กลายเป็นปอดอักเสบ ก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน
เครดิต: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, หมอชาวบ้าน
อ่านเพิ่มเติม คลิก!!
หวัดขึ้นหู อาการที่ต้องระวัง เพราะลูกน้อยอาจ “หูดับ”
สังเกตลูก “หูเหม็น” ก่อนจะกลายเป็น “หูอักเสบ” เสี่ยง “หูหนวก”
ปั่นหูลูก เรื่องอันตรายที่พ่อแม่ต้องระวัง!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่