การ ตรวจภายใน เป็นหนึ่งวิธีในการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวของกับอวัยวะระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง โดยตรวจทางช่องคลอด เพื่อหาความผิดปกติ อาทิ การติดเชื้อ เนื้องอก และมะเร็ง ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะเขินอายเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หรือไม่ก็กลัวไปเลย ยิ่งในรายที่ไม่เคยตรวจภายในมาก่อนไม่ต้องพูดถึง…ทั้งที่ความจริงแล้วการตรวจแต่ละครั้งสูติแพทย์จะปกปิดคนไข้อย่างมิดชิด และเปิดเฉพาะส่วนที่จะตรวจเท่านั้น
โดยการตรวจภายในจะอาศัยการดูส่วนที่มองเห็น คือ อวัยวะเพศภายนอก ช่องคลอด และปากมดลูก และอาศัยการคลำในส่วนที่มองไม่เห็น คือ มดลูก ปีกมดลูก รวมทั้งรังไข่
คุณหมอจะทำอะไรบ้าง
- เมื่อไปถึงห้องตรวจก็จะต้องเปลี่ยนใส่ชุดที่ทางพยาบาลเตรียมไว้ให้เพื่อสะดวกในการตรวจ จากนั้นก็ขึ้นนอนบนเตียงที่มีขาหยั่ง เพื่อสูติแพทย์จะดูลักษณะทั่ว ๆ ไป ภายนอกก่อนว่ามีผื่นแผล ติ่งเนื้อ หรือก้อนที่ผิดปกติหรือไม่
- จากนั้นจะถึงขั้นตอนตรวจดูในช่องคลอด ซึ่งจำเป็นต้องสอดเครื่องมือเข้าไปในช่องคลอด เพื่อถ่างเปิดให้เห็นลักษณะภายในช่องคลอดและปากมดลูก และตรวจดูว่าตกขาวมีสี กลิ่น และปริมาณผิดปกติหรือไม่ ส่วนอวัยวะที่อยู่ลึกที่สุดเท่าที่จะเห็นได้อย่างปากมดลูกก็จะได้รับการตรวจดูว่า มีแผลอักเสบหรือมีติ่งเนื้อหรือไม่
- ปกติสูติแพทย์จะถือโอกาสตรวจมะเร็งปากมดลูกไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งไม่ยุ่งยากและไม่เจ็บ เพราะใช้เครื่องมือป้ายเอาน้ำในช่องคลอด ขูดผิวปากมดลูก และช่องภายในปากมดลูกไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน ก็จะรู้ผล
- ส่วนการตรวจอีกขั้นตอน คือตรวจโดยคลำผ่านทางช่องคลอด โดยแพทย์จะสอดนิ้วในช่องคลอด ส่วนอีกมือหนึ่งจะกดท้องน้อย เพื่อหาความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ที่เหลือซึ่งอยู่ภายในอุ้งเชิงกราน
สำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปควรเข้ารับการตรวจหามะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ ที่แต่งงานแล้วควรตรวจหามะเร็งทุกปี แต่ในรายที่พบว่ามีการอักเสบเรื้อรังที่ปากมดลูก หรือสงสัยว่าจะมีเซลล์ผิดปกติเกิดขึ้น และอาจพัฒนาไปสู่เซลล์มะเร็ง สูติแพทย์อาจจะต้องนัดมาตรวจทุก 3-6 เดือน
กลุ่มเสี่ยงที่ควรตรวจทุกปี
- มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย และมีเคยมีคู่หลายคน
- ปัจจุบันมีคู่ขาหลายคน
- คู่ขามีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยและมีแฟนหลายคน
- เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก
- เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งหรือเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูก
- เป็นโรคหูดหงอนไก่
- ติดเชื้อ HIV
- เป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนเช่น มะเร็ง