ปีปัสสาวะ บอกโรค
นอกจากสีปัสสาวะ บอกภาวะขาดน้ำได้แล้ว ก็ยังสามารถบ่งบอกถึงโรคอื่นๆได้ด้วยค่ะ เรามาดูกันว่า สีปัสสาวะแบบไหนปกติ และแบบไหนบอกถึงโรคที่แฝงอยู่
- ปัสสาวะสีเหลือง หรือปัสสาวะสีเหลืองอ่อน คือ ปัสสาวะปกติ โดยโทนสีของน้ำปัสสาวะ จะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ดื่ม ถ้าดื่มน้ำน้อยสีปัสสาวะจะออกไปทางเข้ม แต่ถ้าดื่มน้ำมากสีปัสสาวะก็จะออกไปทางใส
- ปัสสาวะสีใส หรือปัสสาวะไม่มีสี มักจะพบได้ในผู้ที่ดื่มน้ำมาก
- ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ไปจนถึง สีเหลืองอำพัน ถ้าเข้มไม่มากก็อาจเกิดการดื่มน้ำน้อย หรือจากภาวะขาดน้ำ แต่ถ้าเข้มมากจนคล้ำ อาจเกิดจากโรคไวรัสตับอักเสบ โรคดีซ่าน การอุดกั้นทางเดินน้ำดี หรือมีน้ำดีออกมาในปัสสาวะ หรือเกิดจากโรคมะเร็งตับชนิดเกิดจากท่อน้ำดีในตับ โรคตับอ่อนอักเสบ โรคมะเร็งตับอ่อน
- ปัสสาวะสีเหลืองสว่าง อาจเกิดจากการกินวิตามินรวม หรือวิตามินบีรวม
- ปัสสาวะสีส้ม อาจเกิดจากการขาดน้ำ หรือกินแครอท วิตามินซี วิตามินบี 2 เป็นจำนวนมาก หรือเกิดจากการกินยาบางชนิด เช่น ยารักษาวัณโรค, ยาลดการระคายเคืองทางเดินปัสสาวะ, ยาฟีนาซีติน, ยาซัลฟาซาลาซีน
- ปัสสาวะสีแดง อาจเกิดจากการกินหัวบีทรูท แก้วมังกรแดง หรือแบล็คเบอรี่ในปริมาณมาก หรือเกิดจากการได้รับยาสลบ, ยาต้านชักเฟนิโทอิน หรือยาแก้โรคจิตเวช รวมถึงอาจเกิดจากการมีเลือดปนในปัสสาวะ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ, นิ่วในไต, นิ่วในท่อไต, ไตอักเสบ, กระเพาะปัสสาวะอักเสบ, มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, มะเร็งของไต, ภาวะฮีโมโกลบินในปัสสาวะเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก, ภาวะไมโอโกลบินในปัสสาวะเนื่องจากกล้ามเนื้อสูญสลาย, โรคไตจากภาวะ IgA สะสม, โรคพอร์ฟิเรีย
- ปัสสาวะสีน้ำตาล ปัสสาวะสีน้ำตาลเข้ม หรือปัสสาวะสีโค้ก อาจเกิดจากการกินถั่วปากอ้าในปริมาณมาก การกินยาบางชนิด เช่น ยาระบายเซนน่า, ยาระบายซอร์บิทอล, ยาคลายกล้ามเนื้อเมโทคาร์บามอล, ยาปฏิชีวนะไนโตรฟูแรนโทอิน, ยาปฏิชีวนะเมโทรนิดาโซล, ยาฆ่าเชื้อรักษาอาการท้องร่วงฟูราโซลิโดน, ยารักษาโรคพาร์กินสัน, ยาฆ่าเชื้อในทางเดินปัสสาวะ, ยารักษามาลาเรียไพรมาควิน หรือคลอโรควิน,การมีรงควัตถุน้ำดีอยู่ในปัสสาวะ หรือเกิดจากการมีเลือดปนในปัสสาวะหรือมีเม็ดเลือดแตกในร่างกายแล้วถูกขับออกมาในปัสสาวะจากสาเหตุต่างๆ หรือเกิดจากโรคทางพันธุกรรมที่ขาดเอนไซม์ในการสร้างฮีมในเม็ดเลือดแดงที่เรียกว่าโรคพอร์ฟิเรีย ซึ่งพบได้ยาก หรือการติดเชื้อแรง ๆ เช่น มาลาเรียก็ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกได้เช่นกัน
- ปัสสาวะสีดำ สามารถพบได้ในโรคแอลแคปโตนูเรีย ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ไม่บ่อยนัก
- ปัสสาวะสีขาว อาจเกิดจากการมีหนองปนในปัสสาวะ คือ มีเซลล์เม็ดเลือดขาวปนอยู่ในปัสสาวะจำนวนมาก มักเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น กรวยไตอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือในผู้ป่วยที่ติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง,ในผู้ติดเชื้อหนองใน, มีน้ำเหลืองในปัสสาวะจากการติดเชื้อพยาธิเท้าช้าง หรือผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดไตบางส่วน
- ปัสสาวะสีเขียว อาจเกิดจากการกินอาหารบางอย่าง เช่น หน่อไม้ฝรั่งจำนวนมาก หรือเกิดจากการได้รับยาบางชนิด เช่น ยาสลบ, เมทิลีนบลู, อะมิทริปไทลีน หรืออินโดเมธาซิน
เรียกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆเลยนะคะ เพียงแค่คุณแม่รู้จักสังเกต สีปัสสาวะ ของตัวเองและลูกน้อย ก็จะสามารถรู้เท่าทันโรคต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายเราได้ และจะได้ทำการรักษาได้ทันท่วงที เพราะฉะนั้น อย่าลืมสังเกตร่างกายตัวเองกันด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
อ่านต่อบทความน่าสนใจ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ในสตรีมีครรภ์ เรื่องที่คุณแม่ท้อง ต้องระวัง
อันตราย! ปัสสาวะเป็นฟอง แพทย์แนะวิธีเลี่ยง
สีของฉี่ บ่งบอกสุขภาพ พร้อม 10 ประโยชน์ที่รู้แล้วต้องอึ้ง!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่