คุณแม่ๆ และคุณผู้หญิงหลายคนอาจเคยได้ยินว่า หาก ใส่ผ้าอนามัยนาน ๆ จะทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่ Amarin Baby & Kids มีคำตอบมาฝากค่ะ
ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเคยเห็นบทความที่แชร์ต่อๆ กันในโลกอินเตอร์เน็ตว่า ในช่วงที่ผู้หญิงกำลังมีประจำเดือน หากไม่เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ เลือดเป็นอาหารของเชื้อแบคทีเรีย อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกได้ อย่างไรก็ตาม ข้อความดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่ ไปหาคำตอบจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กันค่ะ
มะเร็งปากมดลูก เกิดจากอะไร?
อันดับแรก คุณแม่ๆ และคุณผู้หญิงควรรู้ก่อนว่าสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกนั้นว่าจากอะไร ซึ่ง มะเร็งปากมดลูก เกิดจากการติดเชื้อ HPV (Human Papilloma Virus) และส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมาจากเพศสัมพันธ์ ผ่านการสัมผัสผิว หรือเยื่อบุของอวัยวะเพศ หรือการที่ปากมดลูกมีรอยถลอก หรือแผลที่ทำให้เชื้อเข้าไปได้
ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV ที่ก่อโรคมะเร็งปากมดลูก
นอกจากการติดเชื้อ HPV แล้ว ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่
- อายุ ซึ่งมักจะพบในหญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี
- ผู้ที่มีคู่นอนตั้งแต่อายุน้อยๆ หรือหลายคน ทำให้มีโอกาสได้รับเชื้อ มากขึ้น
- สูบบุหรี่จัด ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง ซึ่งรวมทั้งบริเวณปากมดลูกด้วย
- มีลูกจำนวนมาก
- ร่างกายมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (โรคเอดส์)
- ไม่เคยตรวจภายใน
Good mom know : มะเร็งปากมดลูกนั้นมีสาเหตุสำคัญมาจากการติดเชื้อไวรัส 99.7% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งจะตรวจพบไวรัสชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เอชพีวี (Human Papillomavirus)
วิธีป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก
สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ตามสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลต่างๆ แม้จะป้องกันได้ไม่ 100 % แต่ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ดีสำหรับการป้องกันในขณะนี้
⇒ Must read : แพทย์แนะหญิงไทย ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก ทุกสามปี
⇒ Must read : ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี! ปี 2560 นี้
⇒ Must read : 10 สัญญาณเตือน มะเร็งปากมดลูก
อ่านต่อ >> “ข้อสรุป ใส่ผ้าอนามัยนาน เสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกจริงหรือ?” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่