จะรู้ได้อย่างไร ลูกแพ้อาหาร พบ 8 วิธี! ป้องกันลูกแพ้อาหาร - Page 2 of 2 - Amarin Baby & Kids
ป้องกันลูกแพ้อาหาร

จะรู้ได้อย่างไร ลูกแพ้อาหาร พบ 8 วิธี! ป้องกันลูกแพ้อาหาร

event
ป้องกันลูกแพ้อาหาร
ป้องกันลูกแพ้อาหาร

ลูกแพ้อาหาร  มีอาการอย่างไร ?

อาการของการแพ้อาหารในเด็ก สามารถเกิดขึ้นได้ทุกระบบของร่างกาย ซึ่งที่พบบ่อย คือ อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คันปาก อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ส่วนที่ 2 คืออาการทางผิวหนัง เช่น ผื่นคัน ลมพิษ  และอาการทางระบบหายใจ คือ จาม มีน้ำมูก ไอ หอบ และแน่นหน้าอก ในบางรายอาการแพ้อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ป้องกันลูกแพ้อาหาร

8 วิธี ป้องกันลูกแพ้อาหาร

เพราะการแพ้อาหารไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และมีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจถึงอันตรายจากการแพ้อาหาร ซึ่ง ดังนั้นเพื่อ ป้องกันลูกแพ้อาหาร หรือ อันตรายจากการกินอาหารที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งพ่อแม่สามารถทำได้ดังนี้

1. ต้องให้ลูกกินนมแม่อย่างน้อย 4-6 เดือนขึ้นไป ซึ่งนอกจากนมแม่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกได้แล้ว ยังสามารถป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ได้อีกด้วย

2. สำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูก ควรงดอาหารที่เป็นสาเหตุของการแพ้บ่อยๆ เช่น ไข่ นมวัว อาหารทะเล ถั่วลิสงในช่วงระยะที่ให้นม

3. การให้อาหารเสริมกับลูก ควรเริ่มเมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป และต้องค่อยๆ ให้ลูกเริ่มทีละอย่าง เช่น กินไข่แดงก่อนไข่ขาว เพราะไข่ขาวมีโปรตีนสูง อาจทำให้ลูกแพ้ได้ หรือควรกินปลาน้ำจืดก่อนปลาทะเล เป็นต้น

4. เลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดการแพ้ โดยเฉพาะช่วงที่ตั้งครรภ์ คุณแม่ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ หลากหลาย เลี่ยงการโด๊ป หรือกินอาหารซ้ำๆ โดยเฉพาะอาหารที่มีโอกาสทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่ายมากเกินไป เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม นมวัว ไข่ อาหารทะเล ถั่วลิสง ช็อกโกแลต และแป้งสาลี เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้อาจทำให้ลูกได้สัมผัสกับสิ่งก่อภูมิแพ้เร็วเกินไป

Must read : เตือนจากแม่ถึงแม่!! ลูกแพ้อาหาร เพราะแม่ท้องโด๊ปอาหารกลุ่มเสี่ยงมากเกินไป

5. อ่านฉลากอาหารให้ดี และควรหลีกเลี่ยงขนม อาหารเสริม หรืออาหารนอกบ้านหากไม่แน่ใจในวัตถุดิบที่ใช้ปรุง

6. ทำข้าวให้ลูกกินเอง เพราะคุณแม่จะรู้ดีว่าลูกแพ้อะไร และสามารถกินอะไรได้บ้าง ซึ่งหากจำเป็นจะต้องเินทางไปไหนมาไหน คุณแม่ก็ควรจะทำอาหารเตรียมพร้อมไปไว้ให้ลูกด้วย

Must read : 7 เมนูอาหารและขนม สำหรับเด็กแพ้อาหาร

7. หากลูกโตจนเข้าเรียนแล้ว ให้แจ้งคุณครูที่โรงเรียน พร้อมแนบเอกสารทางการแพทย์ยืนยันว่าลูกแพ้อาหารอะไรบ้าง เพื่อให้ช่วยสอดส่องดูแลให้ หรืออาจจะต้องปักรายการอาหารที่ลูกแพ้ไว้ที่ผ้ากันเปื้อนหรือกระเป๋าด้วยก็เป็นอีกทางที่ช่วย ป้องกันลูกแพ้อาหาร ได้

ป้องกันลูกแพ้อาหาร

8. พาลูกไปทำสกินเทสต์ SkinTest หรือ การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง เป็นอีกหนึ่งวิธี ป้องกันลูกแพ้อาหาร เพราะจะช่วยในการหาชนิดของอาหารที่เป็นสาเหตุของการแพ้ด้วยโดยทั่วไปสามารถทดสอบได้ทุกเพศทุกวัยแต่ในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน (อ่านเพิ่มเติม ข้อสรุปสำหรับพ่อแม่ เรื่องการแพ้อาหารในเด็ก คลิก!!) ทั้งนี้การทดสอบอาการแพ้ทางผิวหนังประกอบด้วย การทดสอบ 3 ประเภท ดังนี้

  • การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังด้วยการสะกิดผิว

แพทย์จะใช้สารก่อภูมิแพ้ที่เลือกไว้ ทาลงบนผิวหนัง แล้วมีการสะกิดเอาผิวหนังออก เพื่อให้สารเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกาย วิธีนี้เป็นการตรวจที่รวดเร็ว  ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หากพบว่าผิวหนังเกิดผื่นแดง และมีอาการคัน หมายความว่า ผู้เข้ารับการตรวจมีอาการแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้น

  • การทดสอบภูมิแพ้โดยการฉีดเข้าผิวหนัง

ในการทดสอบประเภทนี้ สารก่อภูมิแพ้จะถูกฉีดเข้าผิวหนัง การทดสอบประเภทนี้ เป็นการทดสอบที่ละเอียดอ่อนกว่า การทดสอบโดยการสะกิดผิว แต่เหมาะกับผู้ที่ไม่เกิดอาการแพ้ ต่อสารก่อภูมิแพ้ที่เลือกฉีดเข้าไป

  • การทดสอบภูมิแพ้ด้วยแผ่นปิดผิว

การทดสอบประเภทนี้ มักใช้สำหรับอาการภูมิแพ้สัมผัสที่บริเวณผิวหนัง โดยบริเวณที่ถูกทดสอบจะได้รับการตรวจ 2-3 วันหลังจากมีการใช้แผ่นปิดผิว หรือประมาณ 24 – 72 ชั่วโมง อาการที่แสดงว่าแพ้ คือผิวบริเวณนั้นจะแดงหรือมีตุ่มขึ้น

ทั้งนี้การรักษา หรือ ป้องกันลูกแพ้อาหาร ที่ดีที่สุดและได้ผล คือการหลีกเลี่ยงหรืองดอาหารที่แพ้ โดยต้องงดอาหารทุกชนิดที่มีส่วนประกอบของสารอาหารที่แพ้ เช่น แพ้นมวัว ก็งดอาหารที่มีนมเป็นส่วนประกอบอย่างไอศครีม หรือคุ้กกี้ และให้กินนมถั่วเหลืองหรือนมสูตรพิเศษสำหรับผู้ที่แพ้นมวัวแทน ส่วนการรักษาด้วยยา เป็นการรักษาตามอาการ เช่น ยารักษาอาการผื่นคัน ยาลดน้ำมูก ยาแก้อาการหอบ แน่นหน้าอก เป็นต้น

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก : 


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.vejthani.comwww.vibhavadi.comwww.sanook.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up