ในกรณีที่ลูกน้อยกินอาหารไม่ได้ หรือกินได้น้อย แพทย์จะให้น้ำเกลือเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารและไม่เผชิญกับภาวะขาดน้ำ เพื่อรอให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคจนหายดี ทั้งนี้เด็กที่มีอาการหนักอาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อนด้วยไวรัสชนิดอื่น ๆ เช่น เชื้อไข้หวัดใหญ่ เชื้อไมโคพลาสมา หรือเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งแพทย์จะพิจารณาให้การตามความเหมาะสมต่อไป
วิธีป้องกันไวรัส RSV ระบาด ให้อยู่หมัด
ถ้าคุณพ่อคุณแม่เลือกได้คงไม่มีใครอยากให้ลูกป่วย “กันย่อมดีกว่าแก้” ถูกไหมคะ แม้ RSV ระบาด จะเป็นเรื่องร้ายแรง แต่สามารถป้องกันด้วยวิธีง่ายๆ และฝึกให้ลูก ๆ ทำเองได้ทุกวันจนกลายเป็นนิสัย รับรองว่าช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส RSV ให้น้อยลงได้แน่นอน
- ล้างมือเป็นระยะให้สะอาด ด้วยน้ำสบู่ หรือ แอลกอฮอลล์
- หากเป็นหวัด หรือไข้หวัด ควรฝึกให้ลูกใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่น
- ฝึกให้ลูกรู้วิธีไอ จามที่ถูกต้อง เช่น พอผ้าเช็ดหน้าติดตัว และใช้ป้องปากทุกครั้งที่ไอจาม เพื่อไม่ทำให้เชื้อแพร่ไปสู่เด็กคนอื่น แล้ววนกลับมาติดลูกเราอีก
- ลูกวัยทารก 1 – 2 เดือน หรือคลอดก่อนกำหนด ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับ คนที่กำลังป่วยเป็นหวัดหรือไข้หวัด .
- ช่วงที่ลูกเป็นไวรัส RSV หมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ
- เตรียมแก้วน้ำส่วนตัวให้กับลูก และฝึกให้ใช้เป็นนิสัยไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน หรือนอกสถานที่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อทุกชนิด
- คนในบ้านควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะลูกวัยทารกที่สูดดมควันบุหรี่เสี่ยงจะติดเชื้อไวรัส RSV ได้ง่าย และมีอาการรุนแรง
- ควรหมั่นทำความสะอาดของเล่น เบาะรองคลาน และที่นอนของลูกทันที หลังจากลูกจากเชื้อ RSV แล้วเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก
ในเมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่อาจจำกัดเชื้อโรคทั้งหมดให้พ้นจากลูกน้อยได้ทั้งหมด หนทางที่จะลดโอกาสการติดเชื้อ ไวรัส RSV ระบาด ได้ดีที่สุด คือต้องพยายามให้เด็ก ๆ จะสัมผัสผู้ติดเชื้อน้อยที่สุด โดยเฉพาะวัยทารก 1-3 เดือนแรก โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า ที่ไวรัส RSV แพร่กระจายได้ง่าย สุดท้ายแล้วมันไม่คุ้มเลยที่ทนเห็นลูกป่วย หรือต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล
บทความเกี่ยวข้องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ขอบคุณเรื่องราวประสบการณ์จริงและภาพจากเฟสบุ๊ก คุณศิริมา ศิริชัยนาคร และคุณ Sasinun Noo Singsila