พ่อแม่ฝึกการทำ CPR ยิ่งช่วยลูกได้เร็ว โอกาสรอดยิ่งสูง - Amarin Baby & Kids
พ่อแม่ฝึกการทำ CPR

พ่อแม่ฝึกการทำ CPR ยิ่งช่วยลูกได้เร็ว โอกาสรอดยิ่งสูง

Alternative Textaccount_circle
event
พ่อแม่ฝึกการทำ CPR
พ่อแม่ฝึกการทำ CPR

อุบัติเหตุ สิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับลูกของเรา จึงขอเชิญชวนคุณพ่อคุณแม่มาเรียนรู้ วิธีการทำ CPR เพื่อช่วยชีวิตลูกหากเกิดเรื่องไม่ขาดฝันขึ้น

พ่อแม่ฝึกการทำ CPR ยิ่งช่วยลูกได้เร็ว โอกาสรอดยิ่งสูง

ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้มีโอกาสไปร่วมงาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 22 Presented By Lazada นอกจากสินค้าดี ๆ มากมายแล้ว ยังได้มีโอกาสได้ฟังเสวนาเรื่อง  “การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และ CPR (การช่วยฟื้นคืนชีพในเด็ก)” โดย แพทย์หญิงนงนภัส เก้าเอี้ยน กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจในเด็ก และทีมพยาบาล โรงพยาบาลพระรามเก้า จึงขอนำเนื้อหาที่มีประโยชน์มาถ่ายทอดให้คุณแม่ทั้งหลายได้อ่านกันค่ะ

เมื่อลูกหกล้ม ปฐมพยาบาลอย่างไร

  • ให้รีบเข้าไปประคอง และดูว่าเป็นการหกล้มอย่างรุนแรงหรือไม่
  • หากพบว่ามีบาดแผล ให้ทำความสะอาดบาดแผล (ผู้ที่ทำแผลควรล้างมือให้สะอาด) เพื่อฆ่าเชื้อและกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจติดอยู่ในบาดแผล จากนั้นให้ทายาสำหรับรักษาแผลสดและปิดด้วยพลาสเตอร์หรือผ้าพันแผล
  • ถ้าเลือดไหลเยอะให้กดบาดแผล
  • เพื่อป้องกันไม่ให้มีการฟกช้ำ หรือบวมอย่างรุนแรง ให้ทำการประคบเย็นบริเวณบาดแผล บริเวณฟกช้ำ หรือบวม
  • ในกรณีที่มีอาการปวด ให้รับประทานยาแก้ปวด
  • พักผ่อนและรอดูอาการ และสังเกตอาหารใน 24 ชั่วโมงแรก

ข้อควรระวัง

  • หากเป็นการ พลัดตก หกล้มที่ไม่รุนแรงก็สามารถปฐมพยาบาล และให้พักผ่อนได้
  • หากเป็นการบาดเจ็บที่รุนแรง เช่น ศีรษะ คอ ดวงตาได้รับการกระทบกระเทือน ควรรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาลทันที
  • ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด แอลกอฮอล์ล้างแผล หรือผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดบาดแผลเท่านั้น
  • การประคบเย็นควรใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็ง ไม่ควรใช้น้ำแข็งประคบโดยตรง
  • หากมีเลือดไหลต่อเนื่อง ให้ทำการห้ามเลือดด้วยผ้าสะอาดเท่านั้น ไม่ควรใช้มือหรืออุปกรณ์อื่นที่ไม่สะอาดทำการห้ามเลือด
  • ในกรณีที่มีการหกล้มจนกระดูกหัก พยายามอย่าให้ผู้บาดเจ็บเคลื่อนไหวเพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น

 

การปฐมพยาบาลเด็กที่สำลัก หรือมีสิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ

สำลัก….สังเกตจากอาการอย่างไร

  • ระหว่างที่เด็กกินนม จะไอ มีอาการเหมือนกับจะขย้อนนมหรืออาหารออกมา หากสำลักไม่มาก ก็อาจไอเล็กน้อย 2-3 ครั้งแล้วก็หายไป
  • หากสำลักมาก จะไอแรงถึงขนาดหน้าเขียว หรือมีเสียงหายใจผิดปกติ ดังครืดคราด
  • การไอเป็นกลไกการขับสิ่งแปลกปลอมออกจากท่อหลอดลม
  • หากไอออกมาสำเร็จ เขาจะหยุดไอและเป็นปกติ

อาการแสดงว่ากำลังสำลัก

  • ถ้าขับออกไม่สำเร็จ สิ่งแปลกปลอมขนาดเล็กอาจลงไปสู่ทางเดินหายใจส่วนล่าง เกิดปอดอักเสบ หรือลงไปอุดในหลอดลมขนาดเล็กเกิดภาวะปอดแฟบหรือปอดแตกตามมา
  • ถ้าสิ่งแปลกปลอมมีขนาดใหญ่จะอุดท่อหลอดลมขนาดใหญ่ จะทำให้เด็กหายใจไม่ได้โดยเฉียบพลัน

อาการที่แสดงว่ามีอาการรุนแรง

  • ลูกจะมีอาการ คือ พยายามไอแต่ไม่มีเสียงไอออกมา หายใจไม่ได้ หน้าเขียว ตาเหลือก ร้องไห้ไม่มีเสียง พูดไม่มีเสียง หรือหมดสติ เป็นกรณีฉุกเฉินที่คุณต้องใช้วิธีการต่อไปนี้ในการทำให้สิ่งอุดกั้นหลุดออก จากหลอดลมโดยด่วน
  • ถ้าลูกยังหายใจได้ พูดได้ ร้องไห้มีเสียง ไม่ควรพยายามเอาสิ่งแปลกปลอมออกด้วยตัวเอง เพราะทำให้ของเข้าไปลึกมากขึ้นจนอุดหลอดลมได้ หรือบางครั้งของนั้นอาจอยู่ในหลอดลมอยู่แล้วแต่ตำแหน่งไม่ได้อุดกั้น 100% การไปพยายามเคลื่อนไหวให้ของนั้นหลุด อาจทำให้เปลี่ยนลักษณะเป็นการอุดกั้น 100%ได้
  • ให้คุณพยายามปลอบลูกไม่ให้ตกใจและรีบพาไปพบแพทย์ฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด โดยสังเกตการหายใจของลูกอย่างใกล้ชิด

วิธีป้องกัน

  • จับลูกเรอทุกครั้งหลังจากที่กินนมเสร็จ
  • ห้ามใช้หรือเล่น ของเล่น ชิ้นเล็ก เหรียญ
  • เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมเช่น เด็กที่อายุน้อยกว่า 3 ปี ไม่แนะนำให้กินถั่วเม็ดเล็ก ข้าวโพด เมล็ดทานตะวัน น้อยหน่า มะขาม
  • ควรเริ่มฝึกให้เด็กนั่งกินข้าวได้เองที่โต๊ะอาหาร ไม่เล่น กระโดด นอนกิน หัวเราะ พูด
  • สอนให้เคี้ยวอาหารให้ละเอียด ไม่มูมมาม
  • ห้ามอมวัตถุแปลกปลอม
  • เด็กเล็กกว่า 3 ปี ยังไม่ควรกิน เยลลี่ ขนมเหนียวหนึบ เป่าลูกโป่ง
  • อย่าปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพัง
จับลูกเรอทุกครั้งหลังกินนม
แพทย์หญิงนงนภัส เก้าเอี้ยน สาธิตการจับเด็กเรอหลังกินนม

วิธีช่วยเหลือเบื้องต้น

สำลักนมธรรมดา จับเด็กนอนตะแคง ให้ศีรษะเด็กต่ำลง เพื่อป้องกันไม่ให้นมหรืออาหารที่อาจมีอยู่ในปากไหลย้อนกลับไปที่ปอด ที่สำคัญ ไม่ควรจับเด็กอุ้มขึ้นทันทีเมื่อเกิดอาการสำลัก

จับเด็กนอนตะแคง ให้ศีรษะเด็กต่ำลง
จับเด็กนอนตะแคง ให้ศีรษะเด็กต่ำลง

อ่านต่อ…พ่อแม่ฝึกการทำ CPR ยิ่งช่วยลูกได้เร็ว โอกาสรอดยิ่งสูง คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up