แนะวิธี "พ่อแม่ไปพื้นที่เสี่ยงโควิด" กักตัว 14 วัน ที่บ้านอย่างไร? ให้ลูกปลอดภัย ปลอดเชื้อ! - Amarin Baby & Kids
กักตัว 14 วัน

แนะวิธี “พ่อแม่ไปพื้นที่เสี่ยงโควิด” กักตัว 14 วัน ที่บ้านอย่างไร? ให้ลูกปลอดภัย ปลอดเชื้อ!

event
กักตัว 14 วัน
กักตัว 14 วัน

สสส. แนะวิธี กักตัว 14 วัน กับการปฏิบัติตัวสำหรับ พ่อแม่ หรือผู้ที่มีความเสี่ยง แล้วต้อง กักตัว 14 วัน ที่บ้าน เพื่อที่จะช่วยให้ครอบครัวปลอดภัยปลอดเชื้อ จะต้องทำยังไงบ้าง คลิกดูเลย

“พ่อแม่ไปพื้นที่เสี่ยงโควิด” กักตัว 14 วัน  ที่บ้านอย่างไร?
ให้ลูกปลอดภัย ปลอดเชื้อ!

จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่กลับมาแพร่ระบาดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยตอนนี้ (นับตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 2563) ส่งผลให้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบขั้นตอนการดูแลรักษาตัวเองในช่วงวิกฤตนี้อย่างถูกต้อง เพียงแต่ถ้าบุคคลไหนเข้าข่ายความเสี่ยงติดเชื้อถึงจะเริ่มการกักตัวเอง 14 วันเพื่อรอดูอาการต่อไป

ซึ่งบ้างบ้านก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้สำหรับลูกน้อยที่ต้องอาศัยอยู่กับพ่อแม่และพี่น้อง ที่ไปยังไปพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พ่อและแม่ต้องทำ self-quarantine เนื่องจากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงของการติดเชื้อ แต่จะต้องปฏิบัติตัวหรือพูดคุยกับลูกอย่างไรบ้าง มาฟังคำแนะนำจากคุณหมอกันค่ะ

การปฏิบัติตัวของพ่อแม่ที่ต้องกักตัว 14 วัน อยู่ในบ้านกับลูก

การแยกห้องและของใช้

  • อยู่ในห้องแยกจากครอบครัว โดยแยกห้องนอน
  • หากแยกห้องนอนไม่ได้ ให้ใช้แผ่นกั้นห้องแบบพลาสติกแบ่งสัดส่วน
  • เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
  • แยกของใช้ส่วนตัว
  • มีถังขยะติดเชื้อแยกเฉพาะ
    • สำหรับการจัดการขยะในบ้าน ให้แยกเป็น 2 ประเภท
      • ขยะทั่วไป
      • ขยะติดเชื้อ เช่น หน้ากากอนามัย กระดาษทิชชู่ ซึ่งในแต่ละวันให้เก็บรวบรวมและล้างถังด้วยน้ำยาฟอกขาวเพื่อทำลายเชื้อ
      • จากนั้นใส่ถุงขยะ 2 มัดปากถุงให้แน่น ก่อนนำไปทิ้งรวมกับขยะทั่วไป

การรับประทานอาหาร

การทำความสะอาด

  • เสื้อผ้า ชุดเครื่องนอน ผ้าเช็ดตัว ให้แยกทำความสะอาดด้วยผงซักฟอกตามปกติหรือซักร่วมกับน้ำร้อน
  • ของใช้ที่สัมผัสบ่อย เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ 70-90%
  • ห้องสุขา-สุขภัณฑ์ พื้นบ้าน ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฟอกขาว 5% แต่อย่าฉีดพ่น!

การใช้ห้องสุขา

  • แยกใช้ห้องสุขา หากแยกไม่ได้ ให้ใช้เป็นคนสุดท้ายและทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทันที
  • กรณีใช้ชักโครก ให้ปิดฝาทุกครั้งก่อนกดชักโครก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

ข้อปฏิบัติสำคัญในการกักตัว 14 วัน

  • ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ อย่างน้อยครั้งละ 20 วินาที
  • สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าป้องกัน
  • อยู่ห่างกัน อย่างน้อย 1-2 เมตร หรือ 1-2 ช่วงแขน
กักตัว 14 วัน
ขอบคุณภาพจากเพจ Social Marketing Thaihealth by สสส.

 

 

วิธีอธิบายเรื่องการระบาดของโรค COVID-19 ให้ลูกฟัง

  1. ก่อนจะ กักตัว 14 วัน ให้พูดอธิบายเหตุผลให้ลูกรับรู้และเข้าใจโดยเนื้อหาการพูด ให้พิจารณาตามช่วงวัยของเด็กว่าเป็นเด็กเล็กหรือเด็กโต
  2. ถ้าเป็นเด็กเล็กวัยก่อนวัยเรียน วัยอนุบาลให้พ่อแม่พูดอธิบายสั้นๆ ง่ายๆ ว่า พ่อแม่อาจจะติดเชื้อโรคหวัด ต้องอยู่ห่างจากลูกและคนในครอบครัว 14 วัน ทุกคนในบ้านจะได้ปลอดภัย ไม่มีใครติดเชื้อจากพ่อแม่ได้
  3. ถ้าเป็นเด็กโต วัยเรียน วัยรุ่นพ่อแม่สามารถพูดอธิบายถึงเหตุผลของการทำ self-quarantine ได้มากกว่านี้และบอกด้วยว่าสิ่งที่ทำอยู่คือการแสดงความรับผิดชอบต่อตัวเอง ครอบครัว สังคม ถือเป็นตัวอย่างของการทำความดีต่อตัวเองและผู้อื่น

พ่อแม่ต้องกักตัว 14 วัน แล้วใครจะเลี้ยงลูก

เน้นให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่ยังไม่ได้ป่วยหนัก และการที่พ่อแม่กักตัวเองแบบนี้ จะทำให้ทุกคนลดโอกาสการติดเชื้อจากพ่อแม่ และเมื่อครบ 14 วัน ครอบครัวเราก็กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมได้ ในระหว่างนี้จะมีผู้ใหญ่ใกล้ชิด เช่น คุณน้าคุณอา หรือคนที่พ่อแม่ไว้ใจและมอบหมายให้อยู่ดูแลเด็กๆ แทนพ่อแม่ ระหว่างนี้ถ้าเราคิดถึงกันเราก็ติดต่อกันได้ทาง social media เรา Video call หากันได้เสมอ ส่วนคุณลุงคุณป้า คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย กลุ่มนี้อาจต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้อยู่ใกล้ชิดกับเด็กๆ  เพราะผู้สูงอายุโดยเฉพาะที่อายุ  70 ปีขึ้นไป คือ กลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงมากหากติดเชื้อขึ้นมา ก็แนะนำให้คุยกับผ่าน social media เช่นกัน

***หมายเหตุ ในกรณีที่ผู้สัมผัสใกล้ชิดเป็นแม่ให้นม ยังสามารถให้นมบุตรได้ เนื่องจากปริมาณไวรัสที่ผ่านทางน้ำนมมีน้อยมาก แต่แม่ควรสวมหน้ากากอนามัยและล้างมืออย่างเคร่งครัดทุกครั้งก่อนสัมผัสหรือให้นมบุตร  >> อ่านเพิ่มเติม >>ประโยชน์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ผลวิจัยชี้ช่วยป้องกัน-รักษา โควิด-19

กักตัว 14 วัน

ท่าทีของพ่อแม่สำคัญมาก อย่าแสดงสีหน้าท่าทางกังวลหรือเศร้าหมองมากจนเกินไป ให้บอกตัวเองและลูกอย่างมั่นใจว่าการกักตัวเองแบบที่กำลังทำอยู่นี้เป็นการกระทำที่ดีและเหมาะสมที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ ในบางครั้งคนเราต้องอดทนอดกลั้นต่อความต้องการบางอย่าง ในที่นี้คือความต้องการของพ่อแม่ที่จะใกล้ชิดและดูแลลูก รวมถึงความต้องการของลูกที่จะเข้าหาพ่อแม่ เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีกว่าในระยะยาว

เมื่อครบ 14 วัน

ทั้งนี้เมื่อกักตัวครบ 14 วันแล้ว หากไม่มีอาการไข้ หรือไม่มีอาการไอ ไม่เจ็บคอ ไม่มีอาการหายใจถี่หรือหายใจหอบ ไม่มีน้ำหมูกไหล ก็จัดว่าปลอดชื้อไวรัสโควิดข19 สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่หากมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น ให้ไปติดต่อยังกรมควบคุมโรค โทรสายตรง 1422 (หากโทรหากรมควบคุมโรค 1422 ไม่ติด แนะนำให้โทร 1669) เพื่อขอตรวจเชื้อ หรือสามารถตรวจสอบสิทธิ์ที่เรามีอาทิเช่น สิทธิประกันสังคมหรือ สิทธิบัตรทอง 30 บาท เพื่อขอรับการตรวจได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

สุดท้ายนี้ทุกคนในครอบครัวต้องอดทนและทำใจให้เข้มแข็งเพื่อที่จะได้ผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน  ในกรณีทั่วไปเด็กๆ จะสามารถปรับตัวใช้ชีวิตอยู่กับการกักตัว 14 วัน ของพ่อแม่โดยที่มีผู้ใหญ่ใกล้ชิดคอยดูแลไปได้อย่างดีโดยที่ไม่มีปัญหาทางจิตใจหรืออารมณ์อะไร เพราะเป็นเพียงการแยกจากกันในระยะสั้นๆ และเมื่อพ่อแม่กลับจากกการกักตัว ครอบครัวก็อยูด้วยกันอย่างปกติสุขเช่นเดิมนะคะ


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.facebook.com/socialmarketingthwww.dmh.go.thwww.samitivejhospitals.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ ⇓

5 ขั้นตอน รับ “เงินชดเชยว่างงาน” พิษโควิด-19 จาก ‘ประกันสังคม’

แม่ต้องระวัง! โรคแทรกซ้อนโควิด-19 ในเด็ก ทำลูกป่วยหนัก

ไขข้อสงสัย ‘หน้ากากอนามัย’ ชนิดไหนป้องกัน ‘โควิด-19’ และ ‘PM2.5’ ไปพร้อมกัน!!

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up