โรคมือเท้าปาก เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัส ทำให้มีตุ่ม ผื่น และแผลอักเสบตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า และช่องปาก ควบคู่กับการมีไข้สูง ไอ มีเสมหะ ทำให้เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย และเจ็บปวดจากแผลในปาก ส่วนใหญ่จะระบาดในกลุ่มเด็กเล็ก ขณะที่ผู้ใหญ่ก็ติดได้ แถมมีอาการรุนแรงกว่าถ้ามีโรคแทรกซ้อน เช่นเล็บมือเท้าหลุด ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และภาวะสมองอักเสบ
โรคมือเท้าปากไม่มียารักษาเฉพาะโรค ทำได้เพียงการรักษาตามอาการ ที่สำคัญคือเมื่อเป็นแล้วต้องแยกตัวออกจากผู้อื่น เพราะสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ คุณแม่จึงควรรีบรักษาให้หายเร็วๆ ก่อนที่จะไปติดลูกน้อย
โรคหวัด หรือโรคไข้หวัดธรรมดา เป็นโรคธรรมดาๆ ที่ใครก็ป่วยได้ตลอดชีวิต เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดที่ทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะระบบทางเดินหาย ใจ อาการส่วนใหญ่ไม่รุนแรง มีไข้ต่ำๆ คัดจมูก ไอ ตาม น้ำมูกใส เจ็บคอ หรือท้องเสียได้ ส่วนใหญ่จะค่อยๆ หายเองภายใน 10-15 วัน แต่ถ้าน้ำมูกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเขียว ปวดหู หรือหายใจหอบเหนื่อยภายใน 1 สัปดาห์ควรรีบพบแพทย์
โรคฉี่หนู เกิดจากติดเชื้อแบคทีเรียจากการสัมผัสดิน น้ำ อาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะ เลือด หรือเนื้อเยื่อของสัตว์ติดเชื้อ หลังจากผู้ป่วยติดเชื้อ 5-7 วันจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บช่องท้อง ตาแดง มีผื่นขึ้น และท้องเสีย หากมีอาการรุนแรงอาจส่งผลต่ออวัยวะภายในต่าง ๆ เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต หรือปอดได้
ส่วนมากจะไม่พบการติดต่อจากคนสู่คนนัก แต่มีความเป็นไปได้ หากคุณแม่ท้องเป็นโรคฉี่หนู ลูกน้อยในครรภ์จะติดโรคนี้จนทำให้แท้ง หรือถ้าคลอดออกมาก็จะมีอาการป่วยเหมือนผู้ใหญ่
ประกันสังคมเชิญชวนคุณแม่ ใช้สิทธิป่วยรักษาฟรี
นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม แนะนำว่า หากผู้ประกันตนเจ็บป่วยสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาลที่เลือกไว้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินไม่สามารถเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิได้ สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก่อน หลังจากนั้น ให้ญาติหรือผู้เกี่ยวข้องรีบแจ้งโรงพยาบาลตามสิทธิโดยด่วน เพื่อรับตัวไปรักษาต่อและรับผิดชอบค่าใช้จ่าย โดยนับตั้งแต่เวลาที่โรงพยาบาลได้รับแจ้งจนกว่าจะสิ้นสุด
ส่วนค่ารักษาที่เกิดขึ้นก่อนหน้า สำนักงานประกันสังคมจะรับผิดชอบที่เกิดขึ้นใน 3 วันแรก (72 ชั่วโมง) ไม่นับรวมวันหยุดราชการ ตามเกณฑ์และอัตราที่กำหนด
เมื่อคุณแม่เจ็บป่วย สามารถเดินทางไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิของตนเอง เมื่อไปถึงเพียงยื่นบัตรประชาชนให้กับเจ้าหน้าที่ก็ได้สิทธิเข้ากับการรักษาในทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากไม่ทราบสามารถตรวจสอบโรงพยาบาลตามสิทธิ ป่วยรักษาฟรี ได้ที่ Call center 1506 หรือผ่านระบบ SSO E-SERVICE ตามลิงค์นี้ https://www.sso.go.th/wpr/main
กรณีที่เจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถเข้ารับการรักษาตามสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หลังจากนั้นให้รีบโทรแจ้งโรงพยาบาลตามสิทธิ์เพื่อรับตัวไปรักษาต่อจนหาย ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คุณแม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้าแล้วยื่นเรื่องเบิกสิทธิ ป่วยรักษาฟรี กับสำนักงานประกันสังคมที่ตนสังเกตภายหลัง ใช้ได้ทั้งกรณีเป็นผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.sso.go.th/hospital/content.jsp?lang=th&cat=868&id=3645)
**กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตรายฉุกเฉินผู้ประกันตนสามารถขอรับค่าบริการทางการแพทย์ได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง**
วิธีการเบิกสิทธิประโยชน์กรณีฉุกเฉิน
- ทดรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อน
- ขอใบรับรองแพทย์ระบุเหตุผลของการฉุกเฉินหรือมีการเจ็บป่วยฉุกเฉิน/อุบัติเหตุ ถึงอาการที่เกิดขึ้นว่ามีอย่างไรบ้าง
- ขอใบเสร็จรับเงินแสดงค่าใช้จ่าย โดยละเอียดเบิกคืนได้กับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา ตามอัตราที่ประกาศได้ทุกแห่งทั่วประเทศ
แม้วันนี้ หน้าที่สำคัญของแม่ทุกคนคือการดูแลลูกอย่างดี แต่ต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของตัวเองให้แข็งแรงด้วย เพราะเมื่อลูกน้อยยังเป็นรอยยิ้มหวานๆ ของแม่ เขาก็พร้อมจะมีความสุขตามไปด้วย แต่ถ้าเลี่ยงจะป่วยไม่ได้ อย่างน้อยสวัสดิการสังคมก็ช่วยให้อุ่นใจได้ว่ายังมีคนดูแลคุณแม่อยู่เสมอ
บทความน่าสนใจอื่นๆ
3 โรคที่แม่ป่วย ต้องระวัง อยู่กับลูกอย่างไรไม่ให้ลูกติดเชื้อ
ดูแลตัวเองหลังคลอด ไม่มากพอนอนน้อย อาจป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง
3 โรคนี้เป็นแล้ว! หยุด ให้นมลูก ทันที พร้อมรู้อีก 7 โรค! ไม่ต้องหยุดให้นม
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.khaosod.co.th , www.honestdocs.co.th,www.sso.go.th, www.pobpad.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่