เทคนิคการฝึกสมองสุขภาพดี โดย วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพจาก ม.ฮาร์วาร์ด ซึ่งการดูแลสมองให้มีสุขภาพดี เป็นเรื่องสำคัญ เพราะสมองเป็นอวัยวะที่ตัดสินใจทุกเรื่องของชีวิต คุณพ่อคุณแม่จึงควรบริหารสมองให้ลูกให้ไบรท์ สดใส มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งาน เพื่อการเรียนรู้ ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ต่อไปนี้
1. จิบน้ำบ่อย ๆ
เพราะสมองประกอบด้วยน้ำถึง 85 % เชลล์สมองของเราก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า ทำให้ลูกกลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก ในแต่ละวันจึงควรให้ลูกดื่มน้ำบ่อย ๆ
2. กินไขมันดี
สมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ การให้ลูกกินไขมันดี ซึ่งมีอยู่ในเนื้อปลา อย่าง ปลาแซลมอน หรือนมถั่วเหลือง ก็จะช่วยบำรุงสมองได้
Must read : 10 ปลาไทย โอเมก้า 3 สูง! บำรุงสมองสดใส หัวใจแข็งแรง
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที
หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ (ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน
Must read : สวดมนต์ ก่อนนอน ช่วย ฝึกสมาธิเด็ก
4. อารมณ์ดี หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ
ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ
5. ให้ลูกเรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน
สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์
6. ฝึกหายใจลึก ๆ
สมองใช้ออกชิเจน 20-25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %
การเด็กๆ มีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าพ่อแม่ช่วยดูแลและฝึกฝนสมองให้ลูกดีๆ คุณภาพชีวิตก็จะดีตามไปด้วยเช่นกันค่ะ
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!