วิธีการล้างจมูก และเคลียร์น้ำมูกให้ลูก
สำหรับในเด็กเล็กนั้น แน่นอนว่า เขายังไม่รู้จักวิธีการช่วยเหลือตัวเองในการทำให้น้ำมูกออกมาจากจมูกตัวเองได้ดีมากนัก และเมื่อมีน้ำมูกอยู่เต็มจมูกก็จะทำให้หายใจไม่สะดวก ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรต้องดูแลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ ซึ่งการล้างจมูก เคลียร์น้ำมูกให้ลูก สามารถทำได้หลายวิธี
ลูกเป็นหวัด มีเสมหะ สามารถใช้วิธีนี้ได้ ซึ่งวิธีนี้ถ้าล้างจมูกให้ลูกที่อายุต่ำกว่า 4 ปี ควรมีคนช่วยจับลูกด้วยอีกหนึ่งคน เนื่องจากเด็กเล็กๆนั้นมักจะมีอาการตกใจกลัว เมื่อมีการนำอุปกรณ์ใส่เข้าไปในจมูก ทำให้เด็กดิ้นปัดไปมา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการดูดน้ำมูกได้
อุปกรณ์
- ลูกยางดูดน้ำมูก
- น้ำเกลือสำหรับล้างจมูก
- สลิงสำหรับดูดน้ำเกลือ
ขั้นตอน
- จับลูกให้อยู่ท่านอนหงาย และยกคอลูกให้สูงขึ้นเล็กน้อย
- ใช้สลิงดูดน้ำเกลือขึ้นมา จากนั้นค่อยๆหยอดลงในรูจมูกข้างละ 3-5 หยด
- จากนั้นทิ้งน้ำเกลือไว้ในจมูกลูกสักครู่ (ประมาณ 20 วินาที) เพื่อให้น้ำเกลือละลายความเหนียวของน้ำมูก
- เมื่อทิ้งน้ำเกลือไว้ประมาณ 20 วินาทีแล้ว คุณแม่จึงค่อยใช้ลูกยางดูดน้ำมูกออกมาทั้งสองข้างจนหมด เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ
2.วิธีล้างด้วยน้ำเกลือ
สำหรับวิธีนี้ ขอแนะนำคุณพ่อคุณแม่ว่า ในเด็กที่เล็กมากๆ เวลาฉีดน้ำเกลือเข้าไปในจมูกลูกนั้น เด็กอาจจะกลั้นหายใจยังไม่เป็น ทำให้เกิดการสำลักได้ ดังนั้น คุณพ่อ คุณแม่ที่ไม่มีความชำนาญไม่ควรทำให้ลูกเล็ก แต่สำหรับเด็กที่โตพอจะเข้าใจร่างกายการใช้อวัยวะต่างๆของตัวเองได้ ก็สามารถที่จะใช้วิธีล้างจมูกด้วยด้วยน้ำเกลือได้ค่ะ
อุปกรณ์
- น้ำเกลือสำหรับล้างจมูก
- สลิงดูดน้ำเกลือ
ขั้นตอน
- ใช้สลิงดูดน้ำเกลือขึ้นมาประมาณ 1-2 ซีซี จากนั้นฉีดเข้าในจมูกลูกทีละข้าง
- หลังจากที่ฉีดน้ำเกลือเข้าไปในจมูกลูกแล้ว น้ำมูกเหนียวจะหลุดออกมา ให้คุณแม่ๆใช้ผ้าเช็ดออก ทำความสะอาด เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
3.วิธีเช็ดจมูกลูกด้วยคอตตอนบัด
สำหรับวิธีนี้ค่อนข้างง่ายสำหรับใช้กับลูกเล็ก ที่อายุยังไม่ถึง 1 ขวบ
อุปกรณ์
- คอตตอนบัด
- น้ำเกลือล้างจมูก
ขั้นตอน
- ให้คุณแม่ใช้คอตตอนบัด จุ่มลงในน้ำเกลือสำหรับล้างจมูก
- จากนั้นค่อยๆเอาคอตตอนบัดเช็ดก้อนขี้มูกที่ติดอยู่ในโพรงจมูก ซึ่งหากก้อนขี้มูกนั้นอยู่ลึกมาก คุณแม่ไม่ควรแหย่คอตตอนบัดลงไปลึกๆ เพราะหากลูกดิ้นอาจเกิดอันตรายต่อเยื่อบุโพรงจมูกของลูกได้ และการเช็ดให้เช็ดตั้งแต่ต้นรูจมูก ไปจนถึงระหว่างกลางรู้จมูกลูกเท่านั้นพอ
เชื่อว่าเรื่องสุขภาพของลูกน้อย ย่อมเป็นสิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ให้ความสำคัญอย่างที่สุด คงไม่มีใครอยากให้ลูกเจ็บป่วยบ่อยๆจริงไหมคะ เพราะฉะนั้นเมื่อลูกป่วยควรหมั่นดูแล และสังเกตอาการของลูกๆอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือลูกน้อยได้ทัน โดยที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงเกินกว่าจะแก้ไขค่ะ
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
8 วิธี ขับเสมหะ ลูกโดยไม่ต้องทานยา!
ลูกไอมีเสมหะ เสี่ยงเป็น 6 โรคร้าย กับระบบทางเดินหายใจ
แพทย์ออกมาตรการ! ป้องกันไข้หวัดใหญ่ บนรถสาธารณะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่