วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าหู
- ให้คุณพ่อคุณแม่ลองสิ่งแปลกปลอมด้วยตาเปล่าดูก่อน หากเห็นสิ่งแปลกปลอมได้ชัดเจน และทราบว่าเป็นสิ่งใด และสิ่ง ๆ นั้นไม่ใช่ของแข็ง สามารถลองใช้ปากคีบ คีบวัตถุนั้นออกอย่างเบามือ ภายใต้แสงสว่างอย่างพอเพียง
- ห้ามใช้ไม้พันสำลี ก้านไม้ขีดไฟ หรือวัตถุอื่นใด เขี่ยวัตถุออกเอง เพราะอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดลึกลงไปมากขึ้น จนเป็นอันตรายต่อแก้วหู และหูชั้นกลางได้
- ลองเอียงเอาหูข้างที่มีสิ่งแปลกปลอมลงต่ำ แล้วค่อย ๆ โยกศีรษะในแนวดิ่งเบา ๆ เพื่อให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาเอง
- หากเป็นแมลงเข้าหู ให้เอาศีรษะข้างนั้นขึ้น และใช้น้ำมันทาตัวเด็ก ยาหยอดหู หรือน้ำมันพืช ใส่ไปในรูหู โดยดึงใบหูไปทางด้านหลัง เพื่อให้รูหูอยู่ในแนวตรง เพื่อให้แมลงหนีขึ้นมา หรือลอยขึ้นมาได้
- ห้ามใช้น้ำหรือน้ำมัน ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือของเหลวอื่นๆ ใส่ไปในรูหู ในกรณีอื่น โดยเฉพาะถ้าสงสัยว่า แก้วหูทะลุ เช่น มีเลือดออก มีน้ำไหล
ในกรณีที่ปฏิบัติดังกล่าวแล้ว ไม่ได้ผล หรือมีอาการผิดปรกติ เช่น ปวดหู หน่วง ๆ ในหู มีเลือดหรือน้ำไหล หูอื้อไม่ได้ยิน ควรรีบมาพบแพทย์หูคอจมูก ในทันที โดยเฉพาะในถ้าเป็นเด็ก ควรให้งดน้ำและอาหารมาด้วย เพราะอาจต้องดมยาสลบเพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออก
วิธีป้องกันไม่ให้เห็บเข้าหู
- หลีกเลี่ยงจากบริเวณที่มีแมลงชุกชุม แต่ถ้าหากต้องอยู่บริเวณที่มีแมลงชุกชุมเป็นเวลานานก็ควรที่จะสวมที่ครอบหู หรือใส่ที่อุดหู
- ดูแลทำความสะอาดบริเวณที่นอน และภายในบ้านให้ดี อย่าให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์ต่างๆ ได้
- อย่าทำความสะอาดรูหูด้วยการใช้สำลีพันปลายไม้ หรือคอตตอนบัดเช็ดภายในหู ควรหมั่นเช็ดขี้หูที่ไหลออกมาภายนอกเท่านั้น เพราะขี้หูเป็นกลไกธรรมชาติที่มาพร้อมกลิ่นที่แมลงไม่พึงประสงค์ และความเหนียวของขี้หูจะช่วยกันไม่ให้แมลงเข้าไปภายในหูได้
- ไม่ควรให้สุนัขหรือสัตว์เลี้ยงขึ้นมานอนบนที่นอน เพราะอาจจะทำให้เห็บและหมัดตกอยู่บนที่นอนและเข้าหูได้
โดยปกติแล้ว เห็บหมัด ไม่ใช่แมลงที่อาศัยอยู่บนตัวคน แต่การที่มีเห็บหมัดเข้าไปในหูตามที่อุทาหรณ์ที่คุณแม่ได้แชร์ไปนั้น ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็ก ๆ ควรระมัดระวังไว้ก่อนจะดีที่สุด
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
คนท้องกับแมว เลี้ยงแมวตอนท้องเสี่ยงลูกพิการ
พ่อแม่ระวัง! เห็บหมัดสุนัข และแมวช่วงหน้าฝน
6 พาหะนำโรค หน้าฝนที่พ่อแม่ต้องระวังให้ดี!
ขอบคุณข้อมูลจาก : Kwang Airada Preewan, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, kapook.com, sanook.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่