การทำหมันหญิง คืออะไร?
เชื่อว่าคุณแม่ และผู้หญิงส่วนใหญ่คงเคยได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ว่า ถ้ามีลูกพอแล้วก็ทำหมันซะจะได้ไม่ท้อง ทำเลยทำหลังจากคลอดลูกนั่นแหละจะได้เจ็บตัวครั้งเดียว และก็มีแม่หลังคลอดไม่น้อยเลยค่ะที่เลือกทำหมันทันทีหลังคลอด ตรงนี้ในกรณีที่มีจำนวนลูกกันพอแล้วนะคะ เพราะถ้าตัดสินใจทำหมันเท่ากับว่าคุณจะหมดโอกาสตั้งท้องได้มากถึง 99% ฉะนั้นคิดให้ดี คิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจทำหมันกันนะ!!
สำหรับการทำหมัน ถือเป็นการคุมกำเนิดแบบถาวร ที่จะทำในผู้หญิง หรือผู้ชายก็ได้ ตรงนี้ก็ต้องไปตรงลงกันก่อนว่าใครจะเป็นฝ่ายเสียสละทำหมัน แต่ที่เราจะพูดกันต่อไปนี้คือการทำหมันในผู้หญิงค่ะ
การทำหมันหญิง คือ การทำให้ท่อนำไข่ขาดหรืออุดตัน เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่เดินทางมาพบกับอสุจิของเพศชายหลังการมีเพศสัมพันธุ์นั่นเองค่ะ ซึ่งก็แน่นอนว่าถ้า “ไข่กับอสุจิ” ไม่ได้ผสมกัน คุณแม่ก็ไม่ท้องนะจ๊ะ
อยากรู้ว่า การทำหมันหญิง สามารถทำได้กี่วิธี?
การทำหมันในสตรี แบ่งได้ 2 วิธี ตามระยะเวลาในการทำหมัน ได้แก่
- การทำหมันหลังคลอด หรือ การทำหมันเปียก (Postpartum)
เป็นการทำหมันในระยะหลังคลอดที่นิยมทำภายในเวลา 24-72 ชั่้วโมง หลังการคลอด ซึ่งในระยะนี้ มดลูกยังมีขนาดโตพอที่จะสามารถคลำพบผ่านทางหน้าท้องได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะง่ายสำหรับการผ่าตัดหน้าท้องสำหรับทำการอุดตันรังไข่ได้ง่าย
- การทำหมันระยะหลังคลอด หรือ การทำหมันแห้ง (Interval Sterilization)
เป็นการทำหมันหลังการคลอดตั้งแต่ 6 สัปดาห์ หลังการคลอดขึ้นไป ซึ่งในระยะนี้จะทำการผ่าตัดหน้าท้องสำหรับสำหรับการทำหมันได้ยาก เนื่องจาก มดลูกมีขนาดเล็ก และเลื่อนเข้าอยู่บริเวณช่องเชิงกราน และห่างจากหน้าท้องมาก แต่ปัจจุบัน การทำหมันแห้งได้มีการพัฒนากระบวนการให้ทันสมัยมากขึ้น จึงไม่เป็นเรื่องยุ่งยากเหมือนในอดีต[1]
บทความแนะนำ คลิก>> วิธีคุมกำเนิด (ยาฝังคุมกำเนิด) ได้ผลดีจริงหรือเปล่า?
แล้วการทำหมันหญิง มีข้อดีบ้างไหม?
- เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการวางแผนครอบครัว
- ไม่ขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคในการกำหนดระยะเวลาในการร่วมเพศ
- ไม่มีผลต่อการให้นมบุตร
- ไม่ต้องเสียเวลาในการเข้ารับบริการการคุมกำเนิด
- ไม่ต้องใช้ยาฮอร์โมนคุมกำเนิดหรืออุปกรณ์ต่างๆในการคุมกำเนิด
- ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากยาฮอร์โมนคุมกำเนิด
- ไม่ต้องพะวงเกี่ยวกับการลืมรับประทานหรือฉีดยาคุมกำเนิด(ยาฉีดคุมกำเนิด)
การทำหมันนี่ถือว่าได้ผลเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เลยนะเนี่ย เอาเป็นว่าครอบครัวไหนที่แน่ใจกันแล้วว่ามีลูกเพียงพอแล้ว ก็ลองปรึกษากับคุณหมอสูติฯ ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่งเลยค่ะ
อ่านต่อ 7 เรื่องที่ควรรู้ในการทำหมันหญิง หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่