ไม่ว่าคุณจะแกล้งเดินย่ำเท้าเสียงดังๆ ตะโกนปลุก หรือแม้แต่ขู่ว่าจะไม่ให้ทำอะไรเป็นกรณีพิเศษอีกต่อไป ลูกรักวัย 10 ขวบก็ยังไม่ยอมลุกจากเตียงเพื่อไปโรงเรียนให้ทันสักที คิดแล้วก็น่าขำเพราะตอนลูกยังเล็ก คุณมักอยากให้เขานอนหลับนานที่สุด แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนว่าลูกจะนอนไม่เคยพอเอาเสียเลย !
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือการเริ่มเข้าสู่ภาวะเจริญพันธุ์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบการนอนของลูก โดยทำให้นอนไม่ค่อยหลับในช่วงกลางคืน นอกจากนี้ความเครียดที่มีเมื่อขึ้นชั้นมัธยมต้นเพราะปริมาณการบ้านและความคาดหวังของคนรอบข้างยังทำให้ลูกวัยทวีนมักเหน็ดเหนื่อยติดพันมาจนถึงช่วงเช้าของวันใหม่
วิธีช่วยให้ลูกสดชื่นแจ่มใสในยามเช้า มีดังนี้
1. เข้านอนให้ตรงเวลาทุกคืน แม้ลูกจะมีกิจกรรมหลังเลิกเรียนและต้องทำการบ้านเป็นเวลานานๆ ก็ตาม ร่างกายของเขาจะได้รับรู้ว่าถึงเวลาที่ต้องเข้านอนแล้วปรับกิจกรรมก่อนเข้านอน อย่าปล่อยให้ลูกดูทีวีหรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ในช่วง 30 นาทีก่อนเข้านอน หรือไม่ให้ออกกำลังอย่างเต็มที่ในช่วงหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้านอน แต่ให้เขาอ่านหนังสือหรือฟังเพลงเบาๆ แทน
2. ให้แดดส่องเข้ามาในห้อง ปรับมู่ลี่หรือเปิดม่านให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนของลูกก่อนที่คุณจะปลุกเขาขึ้นมา (และอย่าลืมปิดเมื่อถึงเวลานอนของลูก) ระบบเวลาในร่างกายของเขาจะได้ตอบสนองต่อเวลาทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนโดยอัตโนมัติอย่าให้นอนช่วงวันหยุดนานเกินไปถ้าปล่อยให้ลูกวัยทวีนนอนนานๆ ในวันเสาร์และอาทิตย์ เขาจะยิ่งไม่อยากตื่นเมื่อถึงวันธรรมดาที่ต้องไปโรงเรียน จึงต้องพยายามให้ลูกเข้านอนในเวลาเดิมทุกวัน หรือไม่ควรปล่อยให้เขาเข้านอนดึกกว่าปกติเกิน 2 ชั่วโมง ปลุกลูกอย่างอ่อนโยน การตะโกนปลุกและการขู่จะยิ่งทำให้ลูกไม่ยอมตื่น จึงควรพยายามปลุกด้วยวิธีนุ่มนวล เช่น ชวนให้ดื่มน้ำผลไม้ เกาหลัง หรือถามคำถามเพื่อชวนคุย รับรองว่าเขาจะรอคอยการเริ่มต้นของเช้าวันใหม่อันสดใสอย่างเต็มใจ
บทความและภาพโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง