ในความเป็นจริงแล้วเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องปกติของวัยทวีน พวกเขาแค่พยายามจะพูดจาให้ดูดีน่าฟัง ดังนั้นคำติดปากก็เลยกลายเป็น “เอ่อ” “อืม” “แบบว่า…” เพราะพวกเขากำลังคิดว่าจะพูดอะไรดีในประโยค ต่อไปนั่นเอง ลองมาดูกันว่าคุณแม่จะหาวิธีช่วยลูกได้ อย่างไรบ้าง
• เป็นตัวอย่างที่ดี บางทีลูกอาจจะติดการพูดจากคุณก็ได้ เริ่มต้นที่ตัวคุณเอง พูดจาให้ชัดเจน ตรงไปตรงมา มีเหตุมีผล ชัดถ้อยชัดคำ และพูดด้วยความมั่นใจลูกจะได้ปฏิบัติตาม
• ฝึกฝนบ่อยๆ ลองเริ่มง่ายๆ ด้วยการบอกลูกว่า แม่ให้เวลาหนึ่งนาทีเล่าเรื่องที่ลูกเจอในวันนี้ให้แม่ฟัง เอ้า เริ่มได้… เมื่อลูกเล่าอย่าลืมชมลูกด้วย และครั้งต่อๆ ไปก็พยายามสอนให้เขารู้จักการเล่าแบบเข้าประเด็นด้วยถ้อยคำสั้นๆ ตรงเป้า เข้าจุด เมื่อลูกดีขึ้น คุณอาจจะขยายเวลาให้เขาก็ได้
• ให้พูดอีกครั้ง เมื่อได้ยินลูกพูด เอ่อแทนที่จะเตือนให้หยุดเอ่อ อ่า บ่อยๆ จนลูกรู้สึกว่าถูกจี้จุดอ่อน วิธีที่ดีกว่าคือบอกให้เขาพูดใหม่เช่น “พูดตรงๆ เลยจ้ะลูก” เป็นต้น
• ทวนคำให้ฟัง เมื่อพูดออกไปแล้วลูกไม่รู้ตัว คุณอาจจะลองพูดซ้ำให้ฟัง เมื่อกี้ลูกพูดแบบนี้นะ “เอ่อ แม่ครับ อ่าอยากจะ แบบว่า อ่า ไปบ้านเพื่อน…” การพูดให้ลูกฟังจะทำให้ลูกรู้ว่าควรตัดคำไหนออกไปและปรับปรุงการพูดอย่างไร
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียล พาเรนติ้ง