3 วิธี ทำให้ลูกโตจอมหงุดหงิดยอมเล่าความในใจ - Amarin Baby & Kids

3 วิธี ทำให้ลูกโตจอมหงุดหงิดยอมเล่าความในใจ

Alternative Textaccount_circle
event

วัยทวีนมีเรื่องให้หงุดหงิดและกังวลได้ตลอดเวลา ไหนจะฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยน เรื่องเรียน เรื่องเพื่อนเล่น แถมเด็กๆ วัยนี้ก็เริ่มอยากผละออกจากปีกอุ่นๆ ของพ่อแม่ ไม่แปลกที่พ่อหนูแม่หนูใจร้อนจะหน้าบูดบึ้ง  ดูเหมือนโกรธขึ้งคนทั้งโลกอยู่ได้ทั้งวัน  ก็เล่นพกปัญหาสารพัดไว้จนหนักอก  คุณพ่อคุณแม่จะทำอย่างไรให้ลูกยอมคายความกังวลเหล่านั้นออกมา ดอกเตอร์ลินดา  ซอนน่า  ผู้เขียน The Everything Tween BookŽ มีข้อแนะนำ!

1. อย่าคาดหวัง

ว่าลูกจะอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา  ถ้าลูกคิดว่าพ่อแม่อยากให้เขายิ้มทั้งที่จริงๆ แล้วเขากำลังรู้สึกแย่  เขาก็จะซ่อนความรู้สึกแท้จริงของตัวเองไว้จนคุณจะไม่มีวันได้รู้อีกเลย

2. เว้นที่ว่าง

ถ้าสถานการณ์เลวร้ายขนาดที่ลูกวิ่งร้องไห้โฮเข้าห้อง  แถมปิดประตูตามหลังดังปัง  แปลว่าต้องมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นแล้วละ (อย่างน้อยก็ร้ายแรงสำหรับเจ้าตัวนั่นแหละ)  แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งรีบร้อนถามไถ่อะไรเลย  เพราะเขายังไม่พร้อมคุยหรอก  รอให้ลูกอารมณ์เย็นลงจนยอมออกมาจากห้องเอง  แล้วค่อยเข้าไปปลอบก็ยังไม่สาย

3. ต้องมี “ลูกล่อลูกชน”Ž บ้าง

อย่าถามออกมาโต้งๆ ว่า  เกิดอะไรขึ้นเหรอลูกŽ  เพราะบางครั้ง  แม้แต่ตัวเด็กเองก็ไม่อาจอธิบายสาเหตุของความหงุดหงิดได้เหมือนกัน ยิ่งถ้าเป็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึกแล้วยิ่งพูดยาก  ทางที่ดีลองสุ่มถามไปเรื่อยๆ  เช่น  อืม…หนูรู้ไหม  ถ้าแม่ทำอะไรผิดหรือโกรธใครมากๆ  แม่จะอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ หนูเคยเป็นแบบนี้ไหมŽ  ถ้าคุณตีถูกจุดเมื่อไรความกังวลที่เก็บไว้ก็จะพรั่งพรูออกมาจากปากเล็กๆ เองนั่นแหละ

 

บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up