ทั้งพูดจาก็หยาบคาย ถ้าปล่อยให้คบกันไปเรื่อยๆคนเป็นพ่อแม่จะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้างล่ะ คำตอบคือทำอะไรได้ไม่มากนัก เพราะมิตรภาพคือสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างความเป็นตัวตนของเด็กวัยพรีทีน ฉะนั้น ถ้าลูกชวนเพื่อนที่คุณรับไม่ได้มาบ้าน คุณก็ต้องเดินหมากอย่างรอบคอบที่สุดเท่าที่จะทำได้
– อย่าลืมเรื่องของโรเมโอกับจูเลียต พยายามทนให้มากที่สุดก่อนจะพยายามตัดสัมพันธ์ของเด็กๆ เพราะถ้าคุณไม่ยอมให้ลูกคบเพื่อนคนไหน เขาก็อาจดึงดันที่จะคบเพื่อนคนนั้นต่อไปมากยิ่งขึ้น (และที่ร้ายกว่านั้นคือ แอบคบกันอย่างลับๆ !)
– มีความยุติธรรม คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบเพื่อนของลูก แต่ก็ไม่ควรห้ามลูกคบเพื่อนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร(เช่น เพื่อนคนนั้นแต่งตัวเหมือนเด็กแร็พ หรือหัวเราะเสียงน่าเกลียด) แต่ถ้าเพื่อนคนนั้นเป็นอันตรายต่อลูกของคุณจริงๆ เช่น บังคับให้เขาลองใช้ยาเสพติด หรือมีเพศสัมพันธ์ คุณก็ต้องคุยกับลูกและเพื่อนลูกพร้อมทั้งวางกฎในเรื่องนี้ให้ชัดเจน
– รอเวลา เด็กๆ สร้างความเป็นตัวตนของตัวเองโดยการลองเปลี่ยนบุคลิกไปเรื่อยๆ ในบางครั้ง เด็กที่มีนิสัยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อาจเป็นอิทธิพลที่ดีสำหรับเด็กอีกคน เช่น เด็กที่กล้ามากกว่าอาจช่วยทำให้เด็กขี้อายอยากพูดคุยหรือเล่นกับเด็กคนอื่นๆ และลูกของคุณอาจเลือกที่จะตัดสัมพันธภาพที่ไม่น่าพึงพอใจด้วยตัวของเขาเอง
เมื่อลูกโตขึ้น คุณจะมีเรื่องพูดกับเขาเกี่ยวกับการคบเพื่อนน้อยลงเรื่อยๆ แต่แนวทางที่คุณแนะไว้ในตอนนี้จะสอนให้เขารู้จักแยกแยะว่า คนแบบไหนคือเพื่อนที่เขาควร (และไม่ควร) ไว้วางใจเมื่อได้รู้จักกัน
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง