พลังคิดบวก จากวิกฤติเป็นโอกาสเพื่อลูกรัก
“ผมคิดว่าวิกฤติบางครั้งก็กลายเป็นโอกาสได้เหมือนกัน อย่างน้อยผมจะไม่มีวันเห็นลูกอ้วนหรือป่วยด้วยโรคอ้วนเด็ดขาด เพราะการกินในแต่ละมื้อของเขาจะถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องสมดุลกับที่ร่างกายจะใช้ และข้อดีอีกอย่างคือ พอน้องแต๊งค์เห็นว่าตัวเองป่วยก็เลยมีความรู้สึกว่าอยากจะเป็นหมอ เพราะความฝันก็ทำให้น้องมีวินัยในการเรียนมากขึ้น ผลการเรียนก็ดีขึ้น แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามีข้อจำกัดห้ามเด็กป่วยโรคเบาหวานเรียนหมอหรือเปล่า ก็เลยพูดเผื่อกับน้องแต๊งค์ไว้แล้วว่าเราไม่จำเป็นต้องเป็นหมอก็ได้ จะเป็นเภสัชกรหรือนักโภชนาการก็ช่วยรักษาสุขภาพของคนป่วยได้เหมือนกัน”
“หลังจากนี้น้องแต๊งค์อยากทำอะไรหรือเป็นอะไรผมก็จะสนุบสนุนเต็มที่ แต่สิ่งที่เขาชอบในตอนนี้คือว่ายน้ำ เพราะเขาว่ายน้ำมาตั้งแต่แรกแล้ว ผมคิดว่าก็เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับคนป่วยโรคเบาหวาน แต่เราก็ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะการออกกำลังกายคือการดึงน้ำตาลมาใช้ ผมก็ต้องคอยสังเกตอาการว่าน้ำตาลต่ำหรือเปล่า มีอาการวูบหรือเปล่า และจัดอาหารให้พอเหมาะกับกิจกรรมของเขาครับ”
เห็นครอบครัวของน้องแต๊งค์กิ้วใจสู้และมีทัศนคติดีขนาดนี้ ทีมงานเรียลพาเรนติ้งก็ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจอีกแรง ให้น้องแต๊งค์ดูแลสุขภาพร่างกายและมุ่งมั่นทำตามความฝันจนได้ทำอาชีพในฝันสมใจนะคะ
เรื่องและภาพ : กองบรรณาธิการนิตยสาร AMARIN Baby & Kids