แต่อย่าเพิ่งฟันธงว่าเกมเป็นของต้องห้าม เพราะผลการศึกษาล่าสุดพบว่า การเล่นเกมไม่ได้มีแต่โทษ แต่ยังมีประโยชน์ซ่อนอยู่
• ฝึกเข้าสังคม
เกมที่มีเนื้อหา เช่น ออดิชั่น ไฟนอลแฟนตาซี หรือแม้แต่ซิมซิตี้ เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากว่าพ่อแม่เล่นเกมประเภทนี้กับลูก หรือให้คำแนะนำลูกไปด้วย ก็เป็นแบบฝึกหัดการเข้าสังคมได้
• ออกกำลัง
เกมที่เล่นกับเครื่อง Wii Sport หรือ Wii Fit ทำให้เด็กๆ ต้องย้ายก้นจากเก้าอี้มาขยับแข้งขยับขา ถ้าราคาสูงเกินงบ ก็ไปขุดแผ่นเกมเต้นที่ฮิตกันเมื่อเกือบสิบปีที่แล้วมาแก้ขัดก่อน ไม่แน่ คุณพ่อคุณแม่อาจทนไม่ไหว ต้องลุกมาโชว์สเต็ปจนเจ้าตัวเล็กตะลึงไปเลย
• ประสาทตาและสมอง
เกมแอ๊คชั่นหรือเกมต่อสู้อาจจะดูรุนแรงเกินไป แต่ถ้าเลือกเกมให้เหมาะกับวัยของเด็ก และเล่นอย่างพอประมาณ เกมพวกนี้ก็ช่วยฝึกประสาทการมองเห็น เพิ่มทักษะเรื่องพื้นที่ และการทำงานของมือกับสายตา แถมบางเกมยังมีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ ประวัติศาตร์หรือความรู้รอบตัวแฝงอีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย หากว่าลูกของคุณเล่นเกมโดยไม่ได้จำกัดเวลา หรือไม่มีผู้ปกครองคอยให้คำแนะนำ ทางที่ดีที่สุดคือ ตั้งกติกาการเล่นเกมให้ชัดเจน เด็กควรอยู่หน้าจอ (รวมตั้งแต่การดูโทรทัศน์ไปจนถึงการเล่นเกมคอมพิวเตอร์) ไม่เกินวันละ 1 – 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นต้องเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่นๆ รวมถึงพ่อแม่ควรให้เวลาและอยู่ใกล้ๆ ตอนที่หนูๆ เล่นเกมด้วย คุณพ่อมณฑลและ ด.ช.ภัคพัฒน์ สถาพรพิบูลย์
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง