สุขอนามัยของเด็กนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าเราอาจจะสอนให้รักษาความสะอาด “ล้างมือ ล้างเท้า” ที่บ้านเป็นอย่างดี แต่เมื่อลูกอกไปเล่นดินเล่นทรายนอกบ้าน หรือเล่นในพื้นที่ร่วมกันในโรงเรียน ก็ยังคงเสี่ยงกับโรคภัยที่มาจากการรักษาสุขอนามัยอยู่ดี วันนี้ AMARIN Baby & Kids พาคุณพ่อคุณแม่มารู้จักกับอีกโรคยอดฮิตที่ทำให้ผิวหนังของลูกนั้นไม่สวยงามกันค่ะ
มารู้จัก “กลาก เกลื้อน” กันเถอะ
โรค กลาก เกลื้อน เป็นโรคเชื้อรายอดนิยมสำหรับเขตเมืองร้อน พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นได้ทั่วตัว ถ้ารักษาไม่ถูกต้องจะไม่หายและไม่ควรซื้อยาทาเชื้อรามาทาเองเพราะจะทำให้เชื้อราดื้อยาและหายช้า
โรค กลาก เกลื้อน เกิดขึ้นได้อย่างไร
“กลาก” เกิดจากเชื้อราที่อยู่ตามพื้นดิน กิ่งไม้ ใบไม้ผุ ขนสัตว์เลี้ยง เช่น แมวและสุนัข ซึ่งติดต่อด้วยการสัมผัส หรือคลุกคลีกับผู้ที่เป็นโรคนั้นโดยใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น หวี กรรไกร กรรไกรตัดเล็บ ที่โกนหนวด และอาจติดจากร้านทำผม ร้านเสริมสวยได้อีกด้วย .
กลากขึ้นที่ผิวหนัง บริเวณที่เป็น ได้แก่ ที่อับชื้น เช่น ก้น รักแร้ ซอกนิ้วมือ มีลักษณะเป็นผื่นแดงเป็นวงกลม มีขอบชัดเจน หากไม่ได้รับการรักษาจะขยายขนาดใหญ่ขึ้นอาจมีสะเก็ดหรือเม็ดพุพอง มีน้ำเหลืองไหล หากเป็นที่ศีรษะจะทำให้เส้นผมหัก แหว่งหายเป็นวงชัดเจน
กลากขึ้นที่เล็บ จะทำให้เล็บหนา ขรุขระ เมื่อใช้มีดขูดจะหลุดออกมาเป็นผง เล็บเหลือง เป็นจุดขาว พบบ่อยที่นิ้วเท้าที่ติดกันและที่ขาหนีบ
เมื่อสงสัยว่าเป็น ”กลาก”
กลาก หรือ เชื้อรา นั้นสังเกตยาก ควรให้แพทย์ตรวจสัก 1 ครั้งเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกไปตรวจกับโรงพยาบาลที่ครบวงจร และแจ้งระยะเวลาของอาการอย่างชัดเจน เพื่อให้แพทย์ขูดผิวหนังบริเวณดังกล่าวไปตรวจสอบด้วยวิธีย้อมสีเชื้อราจึงจะแยกประเทศได้ หรือในกรณีที่ยากต่อการประเมินแพทย์ก็จะนำไปเพาะเชื้อในห้องปฏิบัติการต่อ
วิธีการรักษา “กลาก”
คุณหมอจะให้ยาทาและยากิน ขึ้นอยู่กับอาการของโรค ซึ่งจะต้องกินจนกว่าผื่นจะหายและเป็นปกติ ซึ่งหากเป็นเชื้อราที่เล็บอาจจะต้องกินยา 6 – 12 เดือน หากเป็นรอยเชื้อรากลากบริเวณกว้างที่แผ่นหลัง เป็นนานไม่หายขาด จะต้องกินยาร่วมด้วยกับการทายา
หากลูกเป็นแล้วรักษาหายแล้ว เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ คุณพ่อคุณแม่ควรช่วยดูแลสุขอนามัย ดังนี้
1.จะต้องรักษาความสะอาดของร่างกาย อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง และเช็ดตัวให้แห้ง
- ทาแป้งฝุ่นบริเวณข้อพับ
- ตากเสื้อผ้าของลูกให้แห้ง ไม่มีกลิ่นอับ
- เมื่อไปเล่นข้างนอกบ้านกลับมาให้ล้างเท้า ให้ลูกฟอกสบู่ และมีผ้าเช็ดเท้าสำหรับเช็ดให้แห้ง ไม่ปล่อยให้เท้าเปียกชื้น
- ไม่ใส่รองเท้าที่มีกลิ่นอับ ตากถุงเท้าในที่สะอาด ซักเปลี่ยนทุกวัน ไม่ใส่ซ้ำ
- อุปกรณ์ตัดเล็บต้องทำความสะอาดทุกครั้งก่อนนั้นไปใช้ มีภาชนะแช่แอลกอฮอล์
- เลือกเสื้อผ้าที่ไม่อบ ไม่คับ แขนสั้น และมีสีอ่อน เพื่อให้ลูกสบายผิว