ระวัง! ไข้เลือดออกระบาด รุนแรง เด็ก 15 ปี เสียชีวิตแล้ว
ช่วงนี้เข้าสู่หน้าฝนแล้ว ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ เมื่อฝนตกก็เกิดน้ำขังตามแหล่งต่าง ๆ ส่งผลให้ในตอนนี้ ไข้เลือดออกระบาด ในหลายพื้นที่ของประเทศ ซึ่งล่าสุดระบาดรุนแรงจนทำให้เด็กวัย 15 เสียชีวิต!!! เราจะสังเกตจากอะไรว่าลูกติดไข้เลือดออก มาดูกันค่ะ
สถานการณ์ ไข้เลือดออกระบาด 2565
นพ.สุรเดชช ชวะเดช นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านป้องกันเวชกรรม รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จ.ศรีสะเกษ ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน ทำให้มีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก การติดตามข้อมูลในเดือนพ.ค. พบมีผู้ป่วย 66 คน ก็เป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยคือค่ามาตรฐาน 5 ปี พอมาเดือน มิ.ย. ฝนตกเพิ่มมากขึ้นพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 237 คน ซึ่งเกินกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 147 คน และล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน เป็นเด็กอายุ 15 ปี รวมแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค. 65 มีผู้ป่วยสะสมแล้ว 434 คน เสียชีวิต 1 คน
โรคไข้เลือดออก
ไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue) มี 4 สายพันธุ์ คือ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4 แต่ละสายพันธุ์มีระดับความรุนแรงของโรคต่างกันไป หากเป็นไข้เลือดออกจากเชื้อสายพันธุ์ไหนแล้ว จะไม่เป็นสายพันธุ์นั้นอีก แต่สามารถกลับมาเป็นโรคไข้เลือดออกในสายพันธุ์อื่น ๆ แทน
การติดต่อนั้นจะมียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยยุงลายจะออกหากินกัดคนในเวลากลางวัน เมื่อยุงลายตัวเมียดูดเลือดจากผู้ป่วยที่มีเชื้อเดงกี่เข้าไป เชื้อไวรัสเดงกี่ในยุงจะเพิ่มจำนวน และกระจายเชื้อเข้าไปสู่ต่อมน้ำลายของยุง เตรียมพร้อมที่จะปล่อยเชื้อให้กับคนที่ถูกกัดครั้งต่อไปได้ตลอดอายุของยุง ซึ่งอยู่ได้นาน 1-2 เดือน
ระยะอาการของไข้เลือดออก
สำหรับอาการของคนเป็นไข้เลือดออก มักจะแสดงออกหลังจากได้รับเชื้อแล้วประมาณ 5-8 วัน ถ้าเป็นการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ครั้งแรก ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง แต่ถ้าเป็นการติดเชื้อครั้งที่สอง อาจมีอาการรุนแรงเกิดเป็นภาวะไข้เลือดออกได้ โดยอาการของโรคแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
1. ระยะไข้สูง เมื่อเริ่มเป็นจะมีไข้สูงถึง 38-40 องศาเซลเซียส แม้กินยาลดไข้ หรือเช็ดตัวแล้วไข้ก็ยังไม่ลด อยู่ 2-7 วัน ตาและใบหน้า มักจะแดงกว่าปกติ เบื่ออาหารและมีอาการซึม บางคนอาจมีผื่นขึ้น หรือพบว่ามีจุดเลือดออกขึ้นตามลำตัว แขน ขา
2. ระยะวิกฤติ จะเกิดประมาณวันที่ 3-6 หลังจากระยะไข้สูงระยะหนึ่งแล้ว ไข้จะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่อาการทั่วไปจะดูเพลียมากขึ้น รวมถึงมีอาการปวดท้อง ท้องอืด เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน อาจมีอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ ในกรณีที่รุนแรงมาก มือเท้าเย็น ปัสสาวะออกน้อย ผู้ป่วยอาจเกิดอาการช็อกได้ ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
3. ระยะฟื้นตัว เป็นระยะหลังไข้ลงโดยไม่มีอาการช็อก โดยเกล็ดเลือดจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ชีพจรและความดันโลหิตเริ่มคงที่ดีขึ้น อาการทั่วไปจะดีขึ้น เริ่มอยากอาหาร ปัสสาวะออกมากขึ้น มีผื่นแดงคันตามตัว
สัญญาณ ลูกติดไข้เลือดออก
หากมีอาการเหล่านี้ แม้ว่าไข้เริ่มจะลดลงแล้ว ก็ควรต้องไปพบแพทย์ทันที
- ไข้ลง หรือไข้ลดลง แต่อาการแย่ลง ยังเบื่ออาหาร ไม่ค่อยเล่น และอ่อนเพลีย
- คลื่นไส้ อาเจียน ตลอดเวลา
- ปวดท้องมาก
- มีเลือดออกมาก เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ
- พฤติกรรมของเด็กเปลี่ยนไปจากปกติ
- กระหายน้ำตลอดเวลา
- ร้องกวนมากในเด็กเล็ก
- ตัวเย็น สีผิวคล้ำลง หรือตัวลาย
- ปัสสาวะน้อยลง หรือไม่ถ่ายปัสสาวะนานเกิน 4- 6 ชั่วโมง
ป้องกันไข้เลือดออกได้อย่างไร
- ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ใกล้แหล่งที่อยู่อาศัยอย่างสม่ำเสมอ เช่น แหล่งน้ำขังในบ้าน
- ป้องกันตัวเองและบุตรหลานไม่ให้ยุงกัด ด้วยการนอนในมุ้ง ทายากันยุง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
- การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกในเด็ก
- ไปพบแพทย์เมื่อป่วยเป็นไข้ ควรติดตามอาการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
ขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลนครธน, โรงพยาบาลพญาไท, ข่าวช่อง 7 HD ออนไลน์
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
เช็กเลย! อาการ โอมิครอน ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ต่างกันอย่างไร