ใครควรฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก?
1.สมาคมสูตินรีแพทย์ของอเมริกา แนะนำให้ฉีดวัคซีนนี้ในเด็กผู้หญิง ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ไปจนถึง 26 ปี และควรได้รับวัคซีนก่อนเริ่มมีเพศสัมพันธ์ เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันสูงสุด (ถ้าเคยมีเพศสัมพันธ์ และได้รับเชื้อ HPV บางสายพันธุ์มาแล้ว จะไม่ช่วยป้องกันโรค)
2.สำหรับคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว ถ้าต้องการฉีด ก็ยังสามารถฉีดได้ แต่ประสิทธิภาพอาจไม่ดีเท่าคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
3.ถ้าอายุเกิน 26 ปี การสร้างภูมิคุ้มกันอาจไม่ดีเท่าอายุน้อย แต่สามารถฉีดได้
4.เด็กผู้ชายสามารถฉีดได้ โดยเฉพาะชายรักร่วมเพศ ให้ฉีดได้จนถึงอายุ 26 ปี เพื่อลดความเสี่ยงมะเร็งองคชาติ และทวารหนัก ซึ่งเกิดจาก HPV ได้เช่นกัน
5.ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนในขณะตั้งครรภ์ แต่ถ้าฉีดไปแล้วโดยไม่รู้ตัว ก็ยังไม่พบว่าก่อให้เกิดผลเสียต่อครรภ์
ถ้าผู้หญิงอายุมากกว่า 26 ปี แต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แล้วฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก จะได้รับการป้องกันมากกว่า ผู้หญิงที่อายุยังไม่ถึง 26 ปี แต่มีเพสสัมพันธ์บ่อยครั้ง เพราะอาจจะป้องกันได้น้อยกว่า
ผลข้างเคียงของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก
ผลข้างเคียงโดยทั่วไปคือ อาการปวด หรือบวมบริเวณที่ฉีด อาจมีไข้ในช่วงแรก ส่วนน้อยที่จะมีอาการแพ้ยารุนแรง และมีรายงานว่าอาจหมดสติหลังฉีด แต่พบน้อยมาก จึงแนะนำให้สังเกตอาการหลังฉีดอย่างน้อย 15 นาที
วัคซีนมะเร็งปากมดลูกป้องกันได้กี่เปอร์เซ็นต์?
ถ้าคุณแม่ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้ว จะสามารถป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ 70% อีก 30% อาจติดเชื้อ HPV จากสายพันธุ์อื่นๆ คุณแม่ และลูกสาว จึงควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าจะฉีดวัคซีนมาแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันความเสี่ยงอีก 30% ที่อาจจะเกิดขึ้น
เครดิต: สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข, ใกล้มิตรชิดหมอ, โรงพยาบาลเมืองพัทยา, ไทยรัฐออนไลน์
อ่านเพิ่มเติม คลิก!!
แพทย์แนะหญิงไทย ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก ทุกสามปี
10 สัญญาณเตือน มะเร็งปากมดลูก
“วัคซีนเอชพีวี” สำหรับเด็กหญิง-ชาย ป้องกัน “มะเร็งปากมดลูก”
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่