8 เคล็ดลับกระตุ้นให้ลูกทำ งานบ้าน สร้างทักษะชีวิตให้ลูก - Amarin Baby & Kids
งานบ้าน

8 เคล็ดลับกระตุ้นให้ลูกทำ งานบ้าน เสริมสร้างทักษะชีวิตแต่เล็กมีแต่ได้กับได้

Alternative Textaccount_circle
event
งานบ้าน
งานบ้าน

คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่ว่าการฝึกให้ลูกช่วยทำ งานบ้าน แม้ว่าจะเป็นงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่กลับเป็นการเสริมสร้างทักษะชีวิตที่ฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบ ได้ความภาคภูมิใจ และเรียนรู้ในการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเป็นการพัฒนาทักษะสมอง EF ด้วย จัดได้ว่าเป็นโอกาสทองของลูก ๆ ที่พ่อแม่ได้เปิดโอกาสให้ลูกช่วยทำงานบ้านตั้งแต่เล็ก

Julie Lythcott-Haims นักเขียนและอดีตผู้นำนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้กล่าวบนเวที TED Talk ว่า “จากการศึกษาวิจัยพบว่าความสำเร็จของลูก เริ่มต้นขึ้นจากการทำงานบ้านในช่วงวัยเด็ก ยิ่งให้ลูกเริ่มต้นเร็ว เด็กก็จะยิ่งเรียนรู้ได้ดีขึ้น แต่หากบ้านไหนสปอยล์ลูก ไม่ให้เด็กช่วยลงมือทำงานอะไรเลย เขาก็จะคิดว่าเดี๋ยวพ่อแม่ก็ต้องมาทำให้ เด็กก็จะซึมซับพฤติกรรมนี้ไปเรื่อย ๆ จนติดเป็นนิสัย ซึ่งไม่เพียงแต่ทำงานบ้านเท่านั้น แต่อาจรวมถึงการเรียน การทำการบ้านด้วย เป็นต้น” โดยการช่วยทำงานบ้านสำหรับเด็กนั้นสามารถฝึกให้ลูกช่วยทำได้ตั้งแต่วัยอนุบาล แต่สำหรับบ้านไหนที่ยังไม่เคยให้ลูกได้ลองช่วยทำงานบ้าน โดยเฉพาะในเด็กวัยเรียนหรือลูกโตแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจต้องมีเทคนิคในการชวนลูกช่วยทำงานบ้านกันเล็กน้อย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้งานบ้านไม่กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อและสนุกสนาน

8 เคล็ดลับกระตุ้นให้ลูกทำ งานบ้าน เสริมสร้างทักษะชีวิตแต่เล็กมีแต่ได้กับได้

สอนลูกทํางานบ้าน

1.ทำงานเป็นทีม

วิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการให้ลูกช่วยทำงานบ้านอย่างการทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว ฯลฯ แบบสนุกยิ่งขึ้นก็คือการทำไปด้วยกัน พร้อมกับเปิดเพลงโปรดของลูก ร้องเพลงไปด้วยขณะทำความสะอาดไปด้วย ให้เวลาทำงานบ้านเท่ากับเวลาเล่น ก็จะเปลี่ยนการทำความสะอาดให้เป็นเรื่องน่าสนุกได้ และถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครอบครัว

2.เปลี่ยนงานบ้านด้วยการเล่นเกมจับฉลาก

เปลี่ยนจากการทำความสะอาดห้องหรือทำหน้าที่ที่ลูกต้องรับผิดชอบอย่างจำเจ มาลองทำฉลากให้เด็ก ๆ จับเพื่อเลือกห้องที่จะทำความสะอาดหรือประเภทของงานบ้านอื่น ๆ กันดูค่ะ เช่น จับได้สีเขียว = ห้องนั่งเล่น สีชมพู = ล้างจาน สีแดง = ห้องนอนของพ่อแม่ เพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกว่าพวกเขากำลังเลือกและได้ทำงานอื่น ๆ ที่ท้าทายและแปลกใหม่มากขึ้น

3.ให้รางวัลสะสมแต้ม

การให้รางวัลเป็นสิ่งกระตุ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการชวนให้เด็ก ๆ อยากทำงานบ้านที่แสนน่าเบื่อได้ดียิ่งขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจแจกสติ๊กเกอร์เป็นรางวัลหรือให้ดาวติดลงในสมุดทำความดี เพื่อให้ลูกนำมาแลกกับรางวัลที่เขาควรจะได้ เช่น การพาไปสถานที่โปรด อุปกรณ์การเรียน หนังสือเล่มใหม่ เป็นต้น

สอนให้ลูกช่วยงานบ้าน

4.ให้ลูกวางแผนงานบ้านด้วยตัวเอง

ให้เด็ก ๆ ได้วางแผนการทำงานในแต่ละสัปดาห์ด้วยตัวเอง เช่น วางแผนมื้ออาหารสุดโปรดและลงมือทำอาหารเย็นโดยมีคุณแม่เป็นลูกมือ การให้ลูกได้ออกแบบกิจกรรมเองจะทำให้มีความฉลาดเกี่ยวกับการวางแผน มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำสิ่งใหม่ ๆ  ซึ่งทำให้เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานมากกว่างานบ้านที่น่าเบื่อ

5.ชมเชย

เมื่อลูกได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในการทำงานบ้านของครอบครัว เมื่อพวกเขาทำงานเสร็จแล้วคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมที่จะเอ่ยคำชมเชยหรือขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเพียงแค่งานเล็ก ๆ น้อย เช่น พับผ้า พาน้องหมาไปเดินเล่น เอาขยะไปทิ้งถังหน้าบ้าน ล้างจาน ฯลฯ สิ่งนี้จะทำให้ลูกเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจยิ่งขึ้น และรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง

6.ใช้ภาษาที่นุ่มนวล

การฝึกให้ลูกทำงานบ้าน กุญแจสำคัญคือการใช้ภาษาที่ไม่บ่งบอกว่าเป็นการบังคับ แทนที่จะเป็นคำสั่งที่จะบอกให้ลูกทำ เช่น “ลูกต้องเก็บที่นอนนะ!” เป็น “ถ้าลูกเก็บที่นอนของตัวเองทุกวันลูกจะดูน่ารักมากเลย” และคุณพ่อคุณแม่ควรพยายามที่จะรักษาน้ำเสียง เมื่อเด็ก ๆ บ่นอิดออดในการช่วยงาน ไม่พยายามพูดเสียงดุหรือขู่ แต่ใช้คำพูดเพื่อแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ลูกทำจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง ลูกจะมีความรู้สึกอยากทำมากขึ้น

ลูกช่วยงานบ้าน

7.ลงมือทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง

หากเพิ่มงานบ้านในชิ้นที่ยากขึ้นและลูกไม่เคยทำงานนั้น ๆ มาก่อน คุณพ่อคุณแม่ควรทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่างที่ละขั้นตอน คอยแนะนำและอธิบายให้ฟังอย่างชัดเจน และไม่คาดหวังว่าเด็ก ๆ จะทำได้เหมือนที่คุณพ่อคุณแม่ทำตั้งแต่ครั้งแรก ลองปล่อยให้ลูกทำเท่าที่ทำได้ เพื่อเป็นการฝึกฝนประสบการณ์เพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ

8.ปล่อยให้ลูกได้ทำเองอย่างเป็นอิสระ

หลังจากคุณพ่อคุณแม่ได้มอบหมายงานบ้านให้ลูกทำ ควรปล่อยให้ลูกได้ทำอย่างเป็นอิสระ ให้เรียนรู้ด้วยตนเอง แม้ว่าบางอย่างในตอนนี้อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี เช่น ยังมีคราบติดหลังลูกล้างจาน พื้นบ้านยังถูไม่ทั่ว ฯลฯ แต่คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งรีบเข้าไปจัดการด้วยตัวเอง ปล่อยให้ลูกได้ทำจนสำเร็จด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการเรียนรู้เมื่อลูกเติบโตขึ้น ลูกจะช่วยเหลือตัวเองได้และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ดี

สิ่งเหล่านี้อาจเป็นเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เด็ก ๆ ได้สนุกกับการทำงานในบ้านมากขึ้น ข้อสำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่ควรกำหนดตัวเลือกงานบ้านให้เหมาะสมตามวัยของลูก โดยฝึกให้ทำเป็นประจำเรื่อย ๆ หลังกลับจากโรงเรียนหรือทำทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับงานบ้านในเด็กวัยเรียน อาทิเช่น

  • งานบ้านวัย 6-7 ปี เด็กในวัยนี้เริ่มโตและมีความรับผิดชอบมากขึ้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถมอบหมายงานประจำเล็ก ๆ น้อยในบ้าน เช่น จัดโต๊ะทานข้าว เช็ดโต๊ะ กวาดบ้าน ถูบ้าน ช่วยคุณแม่ล้างจานชามหลังรับประทานอาหารเสร็จแล้ว หรืออาจจะชวนลูกเข้าช่วยคุณแม่ทำอาหาร ซึ่งอาจจะเริ่มจากขั้นตอนง่าย ๆ เช่น หุงข้าว ล้างผัก ผลไม้ หรือลงมือทำเมนูง่าย ๆ อย่าง สลัด ทอดไข่เจียว เป็นต้น

ช่วยทำงานบ้าน

  • งานบ้านวัย 8-11 ปี สามารถมอบหมายงานบ้านที่มีขั้นตอนเพิ่มมากขึ้นให้ลูกรับผิดชอบได้ด้วยตัวเอง เช่น ทำความสะอาดบ้าน ดูแลจัดเก็บห้องนอน ซักผ้า ตากผ้า พับผ้าของตัวเอง ช่วยคุณแม่ทำอาหาร ทำขนมในเมนูที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกหน่อยได้ หรืออาจจะปล่อยให้ลูกได้คิดเมนูและลองเตรียมอาหารมื้อง่าย ๆ ทำด้วยตัวเอง เป็นต้น
  • งานบ้านสำหรับวัย 12 ปีขึ้นไป ในวัยนี้ลูกโตพอที่จะช่วยเหลือตัวเองเต็มที่แล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถมอบหมายให้รับผิดชอบงานบ้านได้หลายหลายประเภทมากขึ้น เช่น รีดผ้า ดูแลน้อง ทำอาหารเองได้ รวมถึงการซ่อมแซมงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ยังคงต้องคอยดูแลและคอยระวังเรื่องการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตราย

งานบ้านที่คุณพ่อคุณแม่มอบหมายให้ลูกได้ทำเรื่อย ๆ จะช่วยเสริมสร้างทักษะในการฝึกตนเองให้เก่งขึ้น มีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว อีกทั้งยังเป็นการสร้างฝึกวินัย รู้จักควบคุมตนเองที่ดีอีกด้วย ทั้งนี้มีจากการศึกษาพบว่าเด็กที่ทำงานบ้านมาตั้งแต่ยังอายุน้อย ๆ จะทำให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและตรงตามต้องการ มีสมาธิในการตั้งใจฟัง จับประเด็นได้ดีอันเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ง่าย มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น พร้อมจะให้ความช่วยเหลืออื่นได้ นอกจากนี้เด็กที่ทำงานบ้านมาตั้งแต่เด็ก ๆ และยิ่งทำมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้พวกเขามีความสุขและมีสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวมากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ.

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.mthai.com1896.htmlwww.parents.com

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :

วิจัยชี้ฝึก ลูกช่วยทำงานบ้าน โตไปประสบความสำเร็จในชีวิต

11 งานบ้านทำเพลินแถม เบิร์นไขมัน เผาผลาญแบบไม่ต้องไปฟิตเนส

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up