ด่านที่ 2 เด็กโตจะมาฝึกแบบเด็กๆ พูดในชีวิตประจำวันไม่ง่ายเหมือนเดิม ถ้าเราไม่ได้อยู่ในชีวิตประจำวันเค้ามาก
เค้าทำกิจวัตรส่วนตัวทุกอย่างเองหมด ต้องกำหนดช่วงเวลากัน เช่น หลังเลิกเรียนจะต้องจัดตารางสอนให้เรียบร้อย ถึงจะเริ่มท่องคำศัพท์ ให้ออกเสียงให้ถูก จากนั้นให้เพิ่มคำศัพท์ เป็นวลี และประโยค และทำท่าทางประกอบไปด้วย เช่น เล่าเรื่องตัวเองอาบน้ำ เริ่มตั้งแต่ เปิดประตูห้องน้ำ ปิดประตู ล็อคประตู ถอดเสื้อ ถอดกางเกง เปิดก๊อกน้ำ ล้างหน้า ถูสบู่ ล้างสบู่ เช็ดตัว ใส่เสื้อคลุม แปรงฟัน เล่าขั้นตอน ใส่ยาสีฟัน แปรงฟันบน ล่าง เล่าไปเรื่อยๆ ทำท่าทางประกอบ ขยายมาถึงออกจากห้องน้ำ แต่งตัว ใส่เสื้อ ติดกระดุม
การพูดซ้ำๆ และทำท่าทางประกอบไปด้วย เราจะมองเห็นภาพ และพูดออกมาสอดคล้องกับเรื่องที่ทำอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ไม่ต้องผ่านการแปลในหัว เหมือนระบบการเรียนภาษาของไทย จะพูดออกมาได้อย่างธรรมชาติ ค่อยๆขยายเรื่องยาวไปเรื่อยๆ หลายคนฝึกไปก็ทึ่งตัวเอง นี่เราพูด เราเล่าได้ยาว ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
ด่านที่ 3 ภาษาเป็นทักษะ ไม่มีคำว่า เก่ง ไม่เก่ง มีแต่คำว่า ฝึกไม่ฝึก อยากพูดได้ ต้องได้พูด ซ้ำ ๆๆๆ เพราะฉะนั้น การมีคู่ฝึกซ้อม คุณหมอว่า สำคัญมากๆ ทำไม ผู้ใหญ่ฝึกภาษาไม่ค่อยสำเร็จ แต่พอมาเป็นพ่อแม่ฝึกภาษาให้ลูก ฝึกภาษาสำเร็จกันเป็นแถว เพราะผ่านด่านแรก คือพ่อแม่มีแรงขับดันจากภายในอยากให้ลูกได้ภาษา
เพราะพ่อแม่ มีคู่ฝึกซ้อม คือลูกนั่นเอง และลูกก็มีคู่ฝึกซ้อม คือ พ่อแม่ !!
เด็กโต ถ้าผ่านด่านสำคัญ จะไปได้เร็วมากๆ จนน่าตกใจ !! และหากทำ 3 ด่านนี้ ซ้ำๆ เพิ่มเติมขยายขอบเขตไป
จะเด็กโต หรือผู้ใหญ่ วัยไหนๆ ก็ฝึกได้หมดค่ะ ไม่มีคำว่าสายเกินไป ในการ สอนลูกพูดภาษาอังกฤษ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
มารยาทบนโต๊ะอาหาร ภาษาอังกฤษ ต้องพูดและสอนลูกยังไงบ้าง?
เทคนิคสอนภาษาอังกฤษลูก แสนง่าย โดยพ่อฉี @เพจน้องจันทร์เจ้า ลูกสาวพ่อฉี
พาลูก เข้าวัดทำบุญ ภาษาอังกฤษ ต้องพูดยังไง?
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก : คุณหมอภา / Jeerapa prapaspong
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่