Q: ดูเหมือนว่าช่วงนี้คุณครูจะให้การบ้านลูกชายวัย 11 ขวบเยอะขึ้นเพราะลูกโทร.หาเกือบทุกวัน อ้อนให้กลับไปช่วยทำการบ้าน ดิฉันพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าดิฉันทำงานหนัก คงกลับไปช่วยไม่ได้ แต่ดูเขาจะไม่เข้าใจและคอยโทร.หาซ้ำๆ ทุกวัน ดิฉันควรแก้ปัญหานี้อย่างไรดีคะ
คุณหมอสุริเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์และรักษาการผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล มีคำตอบให้
ก่อนอื่น หมอขอตั้งคำถามให้คุณแม่กลับไปวิเคราะห์ 3 ข้อ
1. อยากให้คุณแม่ทบทวนตัวเอง
“สมมุติเดือนหนึ่งเราหาเงินได้ 100 บาท เราจำเป็นต้องหาเงินให้ได้เต็ม 100 บาทหรือเปล่า จะลดเหลือแค่ 80 บาท อีก 20 บาทที่ไม่ได้นั้นเปลี่ยนมาเป็นใช้เวลาอยู่กับลูกแทนได้ไหม”
2. เวลาที่เจอลูก
“ในหนึ่งสัปดาห์ คุณแม่มีเวลาเจอลูกมากน้อยแค่ไหน การใช้ชีวิตร่วมกันมีพอหรือไม่” บางบ้านคุณพ่อคุณแม่ทำงานหนักในวันจันทร์-ศุกร์ แต่วันเสาร์-อาทิตย์ก็ชดเชยให้ลูกอย่างเพียงพอ ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย และไม่กังวลได้ “ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เราไม่ควรใช้ชีวิตแบบตัวใครตัวมัน แต่ควรใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้คุ้มค่า ความสัมพันธ์ที่มีคุณค่ามีความหมายต่อกัน และสร้างต้นทุนชีวิตที่ดีให้ลูก”
3. ช่วยเรื่องการบ้านลูกอย่างไร
“คุณเคยถามตัวเองหรือไม่ว่า จะช่วยอะไรเรื่องการบ้านของลูกได้บ้าง” อาจจะมองหาเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ เพื่อให้ลูกไปขอความช่วยเหลือ และปรึกษายามที่พ่อแม่ไม่อยู่
เทคนิคการทำการบ้านที่คุณแม่ควรนำมาใช้กับวัยนี้คือ ไม่ควรใช้เวลาทำนานเกิน 30 นาที เพราะเด็กๆจะเสียสมาธิและลุกลี้ลุกลน ถ้าหากลูกทำไม่เสร็จภายใน 30 นาที ให้เปลี่ยนไปทำกิจกรรมอย่างอื่น แล้วค่อยกลับมาทำอีกครั้ง จะดีกว่าให้ลูกทำรวดเดียวจนเสร็จ
“เด็กที่อายุน้อยกว่า 14 ปี วุฒิภาวะยังไม่ดีพอ กระบวนการตัดสินใจและกระบวนการคิดยังไม่สมบูรณ์ เวลาเขาอยู่คนเดียว ไม่แปลกที่จะรู้สึกเหงา บางเรื่องเขาจึงยังอยากได้คำปรึกษาจากพ่อแม่ ลูกอาจจะไม่ได้อยากได้แค่คำปรึกษาเรื่องการบ้าน แต่อยากได้คำปรึกษาเรื่องวิถีชีวิตด้วย เวลาเด็กไปโรงเรียนต้องเจอปัญหาหลายอย่าง และเขาก็อยากให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับฟังปัญหาของเขา
“สำหรับสถานการณ์นี้ ลูกอาจจะพยายามใช้การบ้านมาเป็นข้ออ้าง เหมือนเขารู้สึกว่าเจอหน้าทุกครั้ง คุณต้องถามเรื่องการบ้านเขาเลยคิดว่าความรักของคุณต้องส่งผ่านด้วยการบ้าน เพราะฉะนั้นหมอต้องบอกว่าลูกของคุณกำลังส่งข้อความบางอย่างผ่านการทำการบ้าน แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่ลูกต้องการคือความรักจากคุณ
“สุดท้าย หมออยากเตือนคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านว่า วัยรุ่นคือวัยที่คุณควรต้องผ่านความรักไปให้เขาให้เต็มที่ เพราะนี่คือช่วงสุดท้ายที่เขาจะเรียกร้องความรัก แต่เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นตอนกลางและตอนปลาย เขาจะไม่เรียกร้องอีกแล้ว และพอถึงตอนนั้นพ่อแม่นั่นแหละต้องเป็นฝ่ายวิ่งตามลูก และถ้าหากคุณไม่ให้ความรักกับลูกในวันนี้ คุณอาจจะต้องเป็นฝ่ายเสียใจในอนาคตก็ได้”
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง