เด็กวัยทวีนมักอยากเรียนกีตาร์เพราะอยากเป็นเหมือนกับนักดนตรีที่ตัวเองชอบ หรืออยากเล่นกีฬาบางอย่างกับเพื่อนๆ จะร่ำร้องอ้อนวอนให้คุณเสียเงินพาไปสมัครเรียนหรือซื้ออุปกรณ์ให้ แล้วในที่สุด คุณก็ต้องคะยั้นคะยอให้ลูกฝึกฝนและไปเรียน ทั้งๆ ที่ตอนแรกนั้นเขาเป็นคนที่คิดอยากจะเรียนเองโดยที่คุณไม่ได้บังคับหรือชักจูงอะไรเลย
ที่เป็นแบบนี้เพราะเด็กๆ มักไม่ทันคิดถึงความรับผิดชอบที่ตามมา พอหมดสนุกก็เลยหมดความสนใจไปดื้อๆ แต่ถ้ายอมให้ลูกถอนตัวเร็วเกินไป เขาก็อาจเข้าใจว่าการยอมแพ้เมื่อเจออุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา วิธีโน้มน้าวใจที่คุณอาจลองนำไปใช้ ได้แก่
1. ช่วยกันคิดว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริง
ในบางครั้งเหตุผลที่ทำให้ลูกเลิกล้มความตั้งใจอาจเป็นครูฝึกที่ชอบตำหนิหรือข่มขู่ ลองถามพ่อแม่คู่อื่นๆ ดูว่าลูกเคยบ่นถึงเรื่องนี้บ้างหรือเปล่า และไปนั่งเรียนกับลูกหรือไปดูเขาฝึกซ้อมสักครั้ง การทำให้ลูกเกิดความกระตือรือร้นขึ้นมาใหม่ อาจทำได้โดยหาครูฝึกคนใหม่หรือทีมใหม่ให้เขาเท่านั้นเอง
2. สร้างความประทับใจให้ลูก
โดยพาลูกไปชมการแข่งขันกีฬาหรือการแสดงดนตรีประเภทที่เขาเลือกเรียน เขาจะได้เห็นผลลัพธ์จากการฝึกฝนอย่างหนักด้วยตาของตัวเอง และย้ำว่าคนที่เขาปลื้ม ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี นักเต้น หรือนักกีฬา คงจะไม่เก่งกาจถึงเพียงนี้ถ้าไม่ได้ผ่านการฝึกซ้อมมานานเป็นปีๆ
3. อย่าติดสินบนหรือให้รางวัลเป็นอันขาด
เพราะลูกจะไม่กระตือรือร้นด้วยตัวของเขาเอง
4. รอดูท่าทีลูกไปก่อน
โดยขอให้ลูกยอมทำกิจกรรมที่ตัวเองเลือกต่อไปสักระยะ เช่น จนกว่าจะปิดเทอม หรือจบโปรแกรมที่คุณจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว จากนั้นทั้งคุณและลูกก็ช่วยกันประเมินว่า เขาควรจะเรียนหรือฝึกต่อไปหรือไม่ การคุยกันให้เข้าใจจะช่วยให้เขามองสถานการณ์ตามความเป็นจริงมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญกว่านี้ในอนาคต
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง