หมอนัดอีกครั้งวันที่ 10 มีนาคม แต่วันที่ 7 มีนาคม เธอมีมูกเลือดออกมา จึงรีบไปโรงพยาบาล ตรวจปากมดลูก พยาบาลบอกเปิด 1 ซม. จึงให้กลับบ้านก่อน จนกระทั่งวันที่ 10 มีนาคม เธอปวดท้องช่วง 4 ทุ่ม ปวดถี่ ๆ และหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนตี 3 จึงบอกแฟนว่าไม่ไหวแล้ว ให้พาไปโรงพยาบาล ไปถึงเขาก็ตรวจปากมดลูก เปิด 2 ซม. ให้เธอนอนรอคลอด เธอก็นอนปวดจน 7 โมงเช้า พยาบาลมาตรวจภายใน บอกว่าปากมดลูกเปิด 4 ซม. จึงให้เธอนอนรอจน 9 โมง พาเข้าห้องคลอด แต่ปากมดลูกไม่เปิดเพิ่ม เขาจึงเร่งคลอดให้เธอ
ในขณะที่นักเรียนพยาบาลใส่ที่วัดเสียงหัวใจลูกตั้งแต่ตอนที่เธอเข้ามานอนโรงพยาบาล พบว่าเสียงหัวใจลูกเต้นดีตลอด ไม่มีอาการผิดปกติ จน 11 โมง เธอบอกนักเรียนพยาบาลว่าไม่ไหวแล้ว ขอผ่าได้ไหม อีกฝ่ายก็บอกว่าให้อดทน เพราะคลอดเองแผลจะหายไวกว่าผ่า จากนั้นพยาบาลมาตรวจปากมดลูก บอกเปิดแล้ว ให้เตรียมทำคลอด เธอก็เบ่งคลอดตั้งแต่ 11 โมง หลายรอบแต่น้องก็ไม่ออก หมอก็ใช้ที่ดูดช่วย จนกระทั่งคลอดตอน 12.32 น. แต่เธอไม่ได้ยินเสียงลูกร้องเลย พยาบาลนำลูกมาวางบนหน้าอกเธอแป๊บนึง แล้วรีบเอาไป สักพักหมอบอกเธอว่าน้องตัวเขียว ไม่ร้อง เพราะขาดออกซิเจน อาการ 50/50 ต่อมาเธอถูกพาไปห้องพักฟื้น ก็ได้แต่ร้องไห้ เธอถามแฟนเธอว่าลูกเราเป็นอย่างไรบ้าง หมอบอกน้องขาดออกซิเจนปอดทะลุ
จนกระทั่งตอนเช้าเขาให้เธอไปเยี่ยมลูกได้ พอเห็นลูกก็ใจแทบขาด สายอะไรไม่รู้เต็มตัวลูกไปหมด อาการก็ไม่ดีขึ้น ถามหมอว่าน้องเป็นอะไร เขาก็บอกแต่ไม่รู้ เขาถามเธอว่าถ้าหัวใจลูกหยุดเต้นจะให้ปั๊มหัวใจไหม เธอก็คิดอยู่สักพัก แล้วบอกว่าไม่ต้องก็ได้ เพราะน้องปอดรั่ว หากปั๊มไปปอดอาจจะฉีกเยอะกว่านี้ หมอบอกว่าใช่ เธอเลยบอกว่าไม่ปั๊ม ปล่อยให้น้องหลับไปเลย