12 วิธี การเป็นสุดยอด แม่ที่ดี ของลูก - amarinbabyandkids
แม่ที่ดี

12 วิธี การเป็นสุดยอด “แม่ที่ดี” ของลูก

event
แม่ที่ดี
แม่ที่ดี

แม่ที่ดี

การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตมาอย่างดีในสมัยนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะทุกวันนี้มีสิ่งยั่วตาล่อใจรอลูกน้อยของเราอยู่มากมาย ทั้งสื่อต่าง ๆ โซเซียลเน็ตเวิร์ก และสังคมแวดล้อมในโรงเรียนที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนต่างก็พากันกังวลกันสารพัดเรื่อง เป็นต้นว่า

ซึ่งหากลูกดื้อจะใช้วิธีไหนจัดการ และจะสอนยังไงให้ลูกเชื่อฟังไม่ออกนอกลู่นอกทาง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราจึงขอนำ 12 วิธีเป็นคุณแม่ที่แสนดีให้ลูกน้อยมาบอกกล่าวกับคุณแม่ทุกคนให้ได้รู้กัน ว่าถ้าอยากให้ลูกเชื่อฟังและยกเราเป็นสุดยอดคุณแม่คนดีที่ 1 แล้วล่ะก็ ต้องทำตามกัน ดังนี้เลย…

1. เปลี่ยนเสียงตะโกนเป็นการตกลง

เวลาที่เด็ก ๆ งอแงเขาก็ไม่เลือกเวลาหรือดูความเหมาะสมอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าคุณจะเกิดปรี๊ดแตกแผดเสียงดังใส่ลูกน้อยในวันที่เขางอแง และคุณก็เหนื่อยและเครียดจากที่ทำงานเป็นทุนเดิม ซึ่งเสียงดัง ๆ อาจจะหยุดอาการงอแงของเด็ก ๆ ได้ชะงัด แต่วิธีการหยุดเขาแบบนี้ จะทำให้เขาเรียนรู้ว่าการตะโกนเป็นวิธีที่จะทำให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ จนอาจจะพัฒนาเป็นความก้าวร้าวติดตัวเขาไปในอนาคต ถ้าเป็นอย่างนี้เราเปลี่ยนจากการตะโกนมาเป็นการพูดคุยตกลงกับเด็ก ๆ ดีกว่าไหม เมื่อเขาทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็แค่จับเขามาคุยด้วยเหตุด้วยผล แล้วค่อย ๆ พูดสอนเขาด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าเขาทำอะไรผิด แล้วทำไมถึงทำพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ อาจจะยื่นเงื่อนไขเพิ่มเติมเข้าไปด้วยก็ได้ ว่าถ้าทำแบบนี้อีกแม่จะไม่ให้กินขนม หรือไม่ให้ดูการ์ตูนอีกนะ เพื่อที่เขาจะได้ฝึกการใช้เหตุผลไปด้วยในตัว

2. หลบไปสงบสติอารมณ์

หากวิธีพูดคุยด้วยเหตุผลไม่สามารถหยุดอาการงอแงของเด็ก ๆ ได้ และคุณแม่เองก็เริ่มจะสติแตกอีกรอบแล้ว ก็เลือกเดินออกมาจากจุดนั้น แล้วหลบไปสงบสติอารมณ์สักพัก เพื่อจะได้กลับมาคุยกับเขาใหม่อีกครั้งดีกว่า  เพราะถ้าหากคุณแม่ยั้งอารมณ์ไม่อยู่ จนเผลอตวาดเสียงดังใส่ลูกน้อย เพื่อให้เขาหยุดร้องไห้งอแง เด็ก ๆ ก็อาจจะเรียนรู้และเข้าใจไปเองว่าพฤติกรรมที่รุนแรงเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ทำกัน และโตไปเขาก็อาจจะแสดงพฤติกรรมรุนแรงในสังคมได้

3. ใจเย็นและนิ่มนวล

สำหรับคุณแม่ที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนใจร้อน อารมณ์ร้อน ก็อยากจะขอให้ปรับนิสัยตัวเองให้เป็นคนใจเย็นลงอีกนิด เพราะถ้าหากเด็ก ๆ เห็นคุณแม่เอะอะปึงปังอยู่ตลอด ทีนี้เวลาจะพูดสั่งสอนให้เขาสงบสติอารมณ์ ไม่โวยวายก็คงลำบากแล้วล่ะ อีกอย่างหากคุณแม่ชอบใช้อารมณ์กับลูก ๆ เป็นประจำ จะทำให้เด็ก ๆ ไม่เชื่อฟังอีกด้วยนะ ดังนั้นก็พยายามใจเย็นและนิ่มนวลกับลูก ๆ ไว้ดีกว่า

4. “ทำอย่างนี้ไม่ดีเลยนะลูก…”

หากลูกทำผิด หรือมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก คุณแม่ก็ไม่ควรจะดุว่าลูกแรง ๆ เพราะการดุเขาด้วยเสียงดัง ๆ และถ้อยคำที่รุนแรง จะทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนประณาม หรือโดนกล่าวหา ทำให้เขาไม่อยากฟังสิ่งที่คุณแม่พูด ทางที่ดีเริ่มพูดกับเขาด้วยประโยคประมาณว่า “ทำอย่างนี้ไม่ดีเลยนะลูก…” แล้วก็ค่อย ๆ สอนเขาจะดีกว่า เพราะถ้าหากเราเป็นฝ่ายที่เริ่มเย็นลงก่อน เด็ก ๆ ก็จะค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ได้ และนิ่งฟังเราในที่สุด

5. อธิบายเหตุผลให้กระจ่าง

เมื่อเลือกที่จะสั่งสอนเขาด้วยเหตุและผล คุณแม่ก็จำเป็นต้องอธิบายเหตุและผลอย่างกระจ่างแจ้ง และอิงตามหลักความเป็นจริงด้วย เช่น หากลูกน้อยชอบแกล้งดึงหางน้องหมาและน้องแมว คุณแม่ก็อาจจะพูดกับเขาด้วยเหตุผลว่า อย่าแกล้งน้องหมาน้องแมวแบบนี้ เพราะเจ้าสี่ขาจะเจ็บ และอาจจะหันมากัดหรือข่วนให้เขาได้รับอันตรายด้วย นอกจากนี้การฝึกให้เขาใช้เหตุและผลตั้งแต่เด็ก ๆ จะทำให้เขาโตไปเป็นคนมีเหตุผลด้วยนะคะ

6. ฝึกให้เขาช่วยเหลือตัวเอง

เด็กที่โตพอจะทำอะไรด้วยตัวเองได้ก็ควรจะปล่อยให้เขาได้ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง เช่น จัดเสื้อผ้าเข้าตู้เสื้อผ้าด้วยตัวเอง หิ้วผ้าที่ใส่แล้วมาใส่เครื่องซักผ้าและกดปุ่มซัก หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่เขาพอจะทำเองได้ เพื่อให้เขาได้เรียนรู้การช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้น หรือถ้าจะให้ดี คุณแม่จะสอนให้เขามีส่วนร่วมในการทำความสะอาดบ้านและดูแลบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น รดน้ำต้นไม้ ทำความสะอาดห้องตัวเอง หรืออาบน้ำน้องหมาก็ได้ โตขึ้นไปเขาจะได้เป็นเด็กที่ทำอะไรเป็น ช่วยเหลือตัวเองได้โดย ไม่ต้องพึ่งพาให้ใครมาทำอะไรให้นะคะ

7. ปลูกฝังเรื่องการกินอาหารเพื่อสุขภาพ

หากไม่อยากให้เด็ก ๆ โตขึ้นมาด้วยการกินแต่ขนม น้ำหวาน และอาหารขยะ พ่อและแม่ก็จำเป็นต้องปลูกฝังเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารที่มีประโยชน์ให้เขาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ด้วยการฝึกให้เขากินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ตั้งแต่ยังเด็ก และทุกมื้ออาหารก็ควรจะมีอาหารเพื่อสุขภาพรวมอยู่ด้วยทุกครั้ง หรือในระหว่างมื้ออาหารก็พูดคุยกันในประเด็นอาหารเพื่อสุขภาพ และโทษของอาหารขยะด้วยก็ได้

อ่านต่อ >> วิธีเป็นสุดยอดคุณแม่ที่แสนดีให้ลูกน้อย ข้อ 8-12” คลิกหน้า 4

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up