สอนลูกเก่งอังกฤษ ตั้งแต่เล็กๆ ด้วย 9 เทคนิคแสนง่าย! - amarinbabyandkids
สอนลูกเก่งอังกฤษ

สอนลูกเก่งอังกฤษ ตั้งแต่เล็กๆ ด้วย 9 เทคนิคแสนง่าย!

event
สอนลูกเก่งอังกฤษ
สอนลูกเก่งอังกฤษ

อยาก สอนลูกเก่งอังกฤษ ให้ลูกเป็นเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้!! …แต่จำเป็นจะต้องมีกลยุทธ์และวิธีการต่าง ๆ ที่ต้องส่งเสริมลูกน้อยมาตั้งแต่ยังเล็กและต่อเนื่อง รวมถึงคุณพ่อคุณแม่เองจะต้องมีขั้นตอนและกระบวนการที่ถูกต้องในการสร้างลูกให้เป็นเด็กสองภาษาได้ไปจนโต

Amarin Baby & Kids จึงขอแนะนำแนวคิดเด็กสองภาษาของ คุณครูบิ๊ก-พงษ์ระพี เตชพาหพงษ์ ผู้เขียนหนังสือ เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ ซึ่งเป็นตัวอย่างสำคัญของครอบครัวที่สร้างลูกเป็นเด็ก 2 ภาษาได้ด้วยตัวเอง และเพราะความสำเร็จที่สร้างลูกเก่งภาษาได้เช่นนี้ จึงมีประสบการณ์ดีๆ และเทคนิคแนวทางที่ถูกต้องให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านสามารถลงมือสร้างลูกให้เป็นเด็กสองภาษาได้ นั่นคือ

⇒ Must read : นิตยสาร Amarin Baby & Kids 149 : ฉบับคู่มือสร้างสุดยอดความสารถให้ลูกรัก

9 เทคนิค สอนลูกเก่งอังกฤษ
ปั้นให้เป็น “
เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้”

1. สอนลูกโดยไม่แปล

คือ การไม่สอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล เช่น Cat คือ แมว แล้วให้ลูกท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมกับคำแปล เพราะการสอนแบบนี้จะทำให้ลูกพูดทั้งคำศัพท์และคำแปลไปพร้อมกัน เช่น แคทแมว

และยังทำให้ต้องใช้เวลาคิดอยู่ในหัวเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ก่อนพูดภาษาอังกฤษ มักจะคิดว่า เอ๊ะ…คำนี้ศัพท์คืออะไร ไม่ได้ออกมาตามธรรมชาติของคำศัพท์นั้น ซึ่งเด็กควรจะเห็นแมวเดินมาแล้วพูดว่า แคท ได้เลยจะดีกว่า ดังนั้นการสอนจึงต้องสินให้เด็กรู้จักศัพท์และชี้ไปที่สิ่งนั้นโดยตรงแล้วใช้คำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษร่วมด้วย  ทั้งพ่อแม่และลูกก็จะสนุกร่วมกัน

สอนลูกเก่งอังกฤษ

2. เน้นการพูด และประสบการณ์ร่วมกัน

พ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบกระตุ้นสร้างเงื่อนไขเพื่อให้เด็กเปล่งเสียงออกมาเลียนแบบต้นแบบ ไม่ได้ให้ลูกฟังอย่างเดียวแต่ให้ลูกสื่อสารกลับมาด้วย  เพราะความจริงแล้วภาษาเกิดจากการฟังพูดก่อน หมั่นทำซ้ำๆ ตรงนี้ให้แน่น ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน และเป็นต้นแบบให้ลูกเลียนแบบ

แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกไปอยู่กับไอแพด  สิ่งที่เกิดขึ้นพ่อแม่และลูกจะฟังได้แต่คุณและลูกจะพูดไม่ได้หรือพยายามจะพูดจนเคอะเขินในการออกเสียงหรือออกเสียงไม่ถูก เพราะไม่มีคนขัดเกลาการเลียนแบบ ที่สำคัญคือต้องทำซ้ำทุกวัน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ภาษาแบบธรรมชาติ ให้ลูกเคยชินจนคล่องและติดไว้ในความทรงจำ และฝังไว้ในสมอง  การพูดกับลูกจะเป็นการใช้ประสบการณ์ร่วมกัน ทำให้ลูกสามารถจดจำได้ยาวนาน อาจเริ่มง่ายๆ จากกิจวัตรประจำวันที่ลูกทำกับพ่อแม่ เช่น กินอาหาร อาบน้ำ  แปรงฟัน ฯลฯ

⇒ Must read : กุมารแพทย์แนะ“งด” เลี้ยงลูกด้วยมือถือ และจอทุกชนิดในเด็ก 2 ขวบปีแรก
⇒ Must read : แม่เตือน! ลูกเล่นมือถือ มากเกินไปส่งผลต่อพัฒนาการ

3. ใช้คำศัพท์ในบ้าน และผูกประโยคง่ายๆ ให้ไวยากรณ์อยู่ในความรู้สึก

มีคนหลายคนไม่เข้าใจเรื่องนี้เขาบอกว่ามันเป็นแนวคิดเด็กสอนภาษามั่ว และไม่ถูกหลักไวยากรณ์ แต่ความจริงแล้วไวยากรณ์มันจะอยู่ในความรู้สึก ดังนั้นเมื่อสอนเด็กให้พูดง่ายๆ ก่อนจากคำศัพท์ใกล้ตัวในบ้านให้ครบทุกชิ้นก่อน จากนั้นค่อยๆ ผูกประโยคง่ายๆ  ใช้คำกริยาที่ไม่ซับซ้อน เช่น หยิบจับ วาง ทำแบบนี้ทุกวันเรื่อยๆ จนคล่อง  แล้วค่อยใช้ตามหลักไวยากรณ์ให้ใกล้เคียงการพูด และให้ลูกเลียนแบบ  จากนั้นเรื่องไวยากรณ์จะเกิดขึ้นตามความรู้สึกได้เองว่าเขาใช้คำนี้ผิด และใช้คำนี้ถูก  เช่น เริ่มจากให้ลุกรู้จักคำว่า เตียง พ่อแม่ชี้ไปที่เตียงก่อนนอนทุกวันแล้วสอนว่า Bed ให้เขารู้ว่าเวลานอนคือ sleep จากนั้นก็ค่อยเริ่มเป็นประโยค It’s bed time. เขาก็จะรู้ว่าต้อง Sleep แล้ว

การสอนแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้ประโยคต้นแบบให้ถูกต้อง และลูกก็จะเลียนแบบตามโดยไม่ต้องอธิบาย และจะใช้ถูกเองอย่างเป็นธรรมชาติ  ดังนั้นถ้ามีคนพูดต่างจากสิ่งที่เขาเคยได้ยิน เขาจะรู้สึกทันทีว่ามันผิด แต่เขาอาจจะยังอธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงผิด  ยกตัวอย่างง่ายๆ เกี่ยวกับคนจีนเช่นคำว่า อั่งเปา หรือซองแดงที่ให้วันตรุษจีน  ซึ่งหากแยกคือคำว่า “เปา” คือซอง แต่สีแดงจะออกเสียงว่า “อั้ง”  ซึ่งพอเอามารวมกันกลับออกเสียง “อั่งเปา” ไม่มีใครพูด “อั้งเปา” เพราะมันเพี้ยน นี่คือไวยากรณ์อยู่ในความรู้สึก

อ่านต่อ >> 9 เทคนิคสอนลูกเก่งอังกฤษ ตั้งแต่เล็กๆ” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up