คุณแม่ท่านหนึ่งตั้งกระทู้ไว้ในพันทิป เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดจากการสังเกตลูกน้อยว่า ลูกอายุ 2 ขวบแล้ว แต่ยังพูดไม่ได้ คุณแม่จึงรู้สึกว่าพัฒนาการด้านการพูดของลูกช้าเกินไป คุณแม่จึงไปปรึกษาคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อคุณหมอทำการทดสอบก็พบว่า ลูกพูดช้า สาเหตุ เพราะการดูทีวี หรือการเล่นแท็บเล็ต
ลูกพูดช้า สาเหตุ เพราะดูทีวี มือถือ และแท็บเล็ต
คุณหมอแนะนำคุณแม่ให้ปิดทีวี ปิด แท็บเลต แล้วทำกิจกรรมกับลูก เล่นกับลูก ไม่ปล่อยให้ลูกเล่นคนเดียว หลังจากนั้นลูกน้อยก็พูดได้มากขึ้น คุณแม่เล่าถึงต้นเหตุที่ทำให้ลูกพูดช้าว่า ตอนแรกลูกน้อยเริ่มพูดได้ตั้งแต่ 1 ขวบ คุณปู่คุณย่าเปิดทีวีให้ดู ลูกเริ่มไม่ฟังพ่อแม่ ลูกร้องดูทีวีตลอด และเริ่มเล่นแท็บเล็ต จนลูกพูดไม่ได้ คุณพ่อ คุณแม่เรียกลูกก็มักจะไม่ค่อยได้ยิน เพราะนั่งนิ่งดูทีวี ลูกมีอาการนอนดึก ถ้าไม่ได้ดูทีวีจะไม่ยอมนอน ต้องหลับหน้าทีวีทุกคืน คุณพ่อ คุณแม่จึงตัดสินใจนำทีวีไปเก็บไว้ในห้องเก็บของ เมื่อลูกไม่เห็นทีวีก็ไม่ร้องดู หันมาสอนอ่านหนังสือ สอนพูด เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
ทีวีทำให้ลูกพูดช้าจริงหรือ?
ผศ.นพ.ชาตรี วิฑูรชาติ ได้ให้คำตอบไว้ว่า การที่เด็กดูโทรทัศน์มากๆ ก็เป็นสาเหตุทำให้พูดช้า เด็กขวบแรกยังไม่มีพื้นฐานด้านภาษาเพียงพอที่จะเรียนรู้จากโทรทัศน์ เด็กต้องเรียนรู้ภาษาจากการปฏิสัมพันธ์ในชีวิตจริงกับคนที่อยู่ด้วย เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี จึงไม่ควรดูโทรทัศน์ เพราะจะทำให้เด็กขาดปฏิสัมพันธ์ พูดคุย เล่น และทำให้พัฒนาการด้านอื่นๆ ช้าลงไปด้วย หลังจากอายุ 2 ปี เด็กสามารถดูทีวีได้บ้าง แต่ไม่ควรเกินวันละครึ่งชั่วโมง และพ่อแม่ต้องเลือกรายการที่เหมาะสมและมีประโยชน์ เด็กโตก็ไม่ควรดูโทรทัศน์เกินวันละ 1 ชั่วโมงเช่นกัน
คุณพ่อ คุณแม่ควรคุยกับลูกให้มากขึ้น สอนให้ลูกเรียกชื่อสัตว์ และสิ่งของ โดยให้ดูจากของจริง หรือรูปภาพประกอบในหนังสือ พูดกับลูกด้วยประโยคง่ายๆ สั้นๆ ชัดๆ ช้าๆ โดยให้ลูกน้อยเห็นหน้าและปากเวลาพูด อย่างไรก็ตามคุณพ่อ คุณแม่ก็ควรพาลูกไปพบกุมารแพทย์โดยเร่งด่วน เพื่อตรวจเช็คการได้ยิน และพัฒนาการด้านอื่นๆ รวมทั้งโรคทางกายต่างๆ ที่อาจทำให้พูดช้า คุณหมอจะได้สอบถามการเลี้ยงดู และสภาพแวดล้อมอื่นๆ เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยพูดช้า จะได้แก้ไขอย่างถูกต้อง