10 สัญญาณบ่งบอก ลูกไอคิวสูง มีแนวโน้มโตไป อนาคตดี! - Amarin Baby & Kids
ลูกไอคิวสูง

10 สัญญาณบ่งบอก ลูกไอคิวสูง มีแนวโน้มโตไป อนาคตดี!

Alternative Textaccount_circle
event
ลูกไอคิวสูง
ลูกไอคิวสูง

ลูกไอคิวสูง – แม่ของเซอร์ไอแซกนิวตันจะรู้หรือไม่ ว่าลูกชายของเธอ มีไอคิวสูงมากถึง 192 เธอคงไม่คาดคิดว่าลูกชายของเขาจะเติบโตมาเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดตลอดกาล เพราะเธอพาลูกออกจากโรงเรียนในช่วงวัยรุ่นตอนต้น ด้วยความหวังจะให้ลูกเป็นชาวนาเหมือนพ่อผู้ล่วงลับของเขา มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง IQ ของเด็ก โดยทำการศึกษาในเด็กที่ถูกระบุว่าเรียนดี จากผลการศึกษาพบว่ามีสัญญาณบ่งชี้ที่พ่อแม่สามารถสังเกตได้ ว่าลูก ๆ ของพวกเขาอาจมีไอคิวสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป ลองเช็คดูสิ! ลูกคุณมีกี่ข้อใน 10 ข้อต่อไปนี้?

10 สัญญาณบ่งบอก ลูกไอคิวสูง มีแนวโน้มโตไป อนาคตดี!

เด็กที่มีสติปัญญาดี IQ สูง มักมีลักษณะดังต่อไปนี้:

1. ความจำยอดเยี่ยม

เห็นได้ชัดว่าความจำที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กในการเรียนรู้และเก็บข้อมูลใหม่ ๆ ทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน ในความเป็นจริงตามที่นักจิตวิทยาและนักเขียน Tracy Packiam Alloway กล่าวว่า“ ความจำในการทำงานไม่ได้เชื่อมโยงกับการเรียนรู้เท่านั้น (ตั้งแต่อนุบาลถึงวิทยาลัย) แต่สำหรับการตัดสินใจในกิจกรรมประจำวันด้วย” คำเตือนคำเดียวจากการศึกษาระบุว่าเด็กที่มีความทรงจำดีๆ ก็โกหกได้ดีกว่า!

2. อ่านหนังสือได้ก่อน 4 ขวบ

โดยเฉลี่ยแล้วเด็กที่ฉลาดมากจะเริ่มอ่านหนังสือได้ก่อนอายุสี่ขวบในขณะที่เด็ก ๆ ส่วนใหญ่มีอายุใกล้หก หรือเจ็ดขวบก่อนที่จะถึงขั้นตอนนี้ การอ่านมีหลายขั้นตอนและเด็ก ๆ ต้องเรียนรู้ที่จะจดจำและเข้าใจคำศัพท์ก่อนจึงจะเริ่มอ่านได้ด้วยตนเอง เด็กบางคนอาจค้นพบความสุขของการอ่านเมื่อเริ่มเติบโตขึ้น และเมื่อได้อ่านเด็กอัจฉริยะมักจะติดการอ่านอย่างงอมแงม

ลูกไอคิวสูง
ลูกไอคิวสูง

3. มีความอยากรู้อยากเห็น

จากรายงานของ Harvard Business Review  ระบุว่า “ความอยากรู้อยากเห็นมีความสำคัญพอ ๆ กับความฉลาด” และการมีจิตใจที่อยากรู้อยากเห็นก็เป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จที่ดีในอนาคตของเด็ก เด็กที่ชอบถามคำถามจำนวนมากแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาที่จะเรียนรู้โดยสัญชาตญาณในขณะที่พวกเขาแสวงหาโอกาสในการเรียนรู้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด พวกเขาก็จะสามารถพัฒนาจิตใจและสติปัญญาของพวกเขาต่อไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง

4. มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำ

ทารกและเด็กเล็กมักมีช่วงสมาธิสั้น และเสียสมาธิได้ง่ายจากเสียงหรือการเคลื่อนไหวใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว พวกเขาอาจมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ ประมาณ 10 ถึง 15 นาทีเมื่อถึงเวลาที่ต้องทำ  อย่างไรก็ตามเด็กที่มีพรสวรรค์ มักสามารถโฟกัสอยู่กับสิ่งที่ทำได้เป็นระยะเวลานานตั้งแต่อายุยังน้อย (บางรายก่อนอายุหกเดือน) เมื่อพวกเขาอายุเพียง 10 หรือ 11 เดือน การจับคู่รูปทรง และสีไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขา นอกจากนี้คุณอาจเห็นพวกเขาชอบชี้ไปที่ภาพในระหว่างที่คุณอ่านหนังสือนิทานให้ฟัง หรือแม้แต่พลิกหน้าหนังสือเอง ในขณะที่คุณยังอ่านในหน้านั้นไม่จบ

5. มีความสามารถทางดนตรี

จากการศึกษาวิจัย แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเป็นนักดนตรีกับความฉลาด และนักวิจัยเชื่อว่าเด็ก ๆ จะได้รับประโยชน์ทางวิชาการเมื่อพวกเขาได้เรียนรู้ด้านดนตรี พ่อแม่ทุกคนควรเปิดโอกาสให้ลูก ๆ ได้เรียนรู้ดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อย แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความสามารถพิเศษทางดนตรีก็ตาม นักวิจัยเชื่อว่าการฝึกดนตรีส่งผลกระทบต่อสมองและปลดล็อกความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

6. เป็นคนมาตรฐานสูง

เด็กฉลาดและผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จมีแนวโน้มที่จะสร้างความโดดเด่นให้กับตัวเอง พวกเขามีความต้องการโดยสัญชาตญาณในการปรับปรุงและทำสิ่งต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น แรงผลักดันนี้ยังช่วยพวกเขาในการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และวิชาต่างๆ ในโรงเรียนอย่างสุดความสามารถ การมีสมาธิมากแบบสุดลิ่มทิ่มประตูกับการทำอะไรก็ตามที่พวกเขาสนใจ และตั้งใจให้ผลงานออกมาอย่างดีที่สุด อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าพวกเขาเป็นคนที่มีไอคิวสูง

7. พูดเก่งกับผู้ใหญ่

เด็กที่มีพรสวรรค์มักถูกอธิบายว่าเป็น“ ผู้ใหญ่ตัวน้อย” เนื่องจากมีวุฒิภาวะที่โตเร็ว มีการรับรู้เหตุการณ์ปัจจุได้ดี และมีแนวโน้มที่จะสนทนากับผู้ใหญ่แบบเป็นเรื่องเป็นราวได้มากกว่าเด็กคนอื่น ๆ เด็กที่สดใสร่างเริงเป็นพิเศษอาจเป็นคนที่ชอบคุยกับผู้ใหญ่ในงานเลี้ยงวันเกิด แทนที่จะเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ การเพลิดเพลินกับการสนทนาและการชอบบอกเล่าพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ในชีวิตของพวกเขาก็เป็นสัญญาณของความฉลาดในเด็กเช่นกัน

ลูกไอคิวสูง

8. บุคลิกภาพที่มีพลังทางอารมณ์

ทารกที่มีพรสวรรค์ด้านความฉลาด อาจมีการแสดงออกทางอารมณ์ที่รุนแรงได้เช่นกัน ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอาจแสดงความรู้สึกต่อทั้งอารมณ์เชิงบวกและเชิงลบค่อนข้างรุนแรง นอกจากนี้จะมีความคิดที่ซับซ้อนและเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กทั่วไปวัยเดียวกัน หากลูกน้อยของคุณเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านความอัจฉริยะ ลองสังเกตว่าลูกของคุณอาจชอบที่จะชอบสนทนากับผู้คน ตุ๊กตา ของเล่น และสัตว์เลี้ยง เด็กที่มีบุคลิกภาพลักษณะนี้ควรต้องได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม ไม่ควรโดนฉุดหรือโดนหยุดความคิดและจินตนาการที่พรั่งพรู

9. กระตือรือล้น

เมื่อทารกเกิดมา เวลาตื่นนอนส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการสังเกตสภาพแวดล้อม ผู้คน และการเคลื่อนไหวต่างๆ รอบๆ ตัวพวกเขา ทั้งนี้ทารกที่มีพรสวรรค์หรือมีแนวโน้มว่าเป็นเด็กไอคิวสูง อาจชอบที่จะสบตากับบุคคลที่อุ้มหรือพูดกับพวกเขา ทารกอาจหันศีรษะไปหาใครบางคนและตอบสนองต่อเสียงและการกระทำได้ในทันที นอกจากนี้ เมื่อพวกเขาเข้าสู่วัยเตาะแตะ พวกเขาจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ  ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของระดับการรับรู้ที่ดีมาก เช่น ลูกของคุณอาจต้องการเช็ดน้ำตาของคุณหรือกอดคุณไว้ใกล้ ๆ หากพวกเขาสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงสีหน้าทางอารมณ์ของคุณ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความฉลาดในเด็กวัยเตาะแตะ

10. ชอบอยู่คนเดียว

เด็กที่มีพรสวรรค์มีความสุขมากกว่าใน บริษัท ของตัวเองเล่นกับของเล่นสมุดระบายสีหรือไขปริศนา หากบุตรหลานของคุณแสวงหาเพื่อนร่วมงานของเด็กโตเล็กน้อยก็เป็นเพียงการได้รับความเข้าใจทางอารมณ์และสติปัญญาที่สูงขึ้นเกี่ยวกับสิ่งต่างๆรอบตัวพวกเขา นี่เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งของความฉลาดสูงในทารก เด็ก ๆ ชอบเพื่อนหนึ่งหรือสองคนและชอบอยู่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ หากลูกน้อยของคุณสามารถสร้างความบันเทิงให้ตัวเองได้โดยไม่ต้องวุ่นวายมากนักก็เตรียมต้อนรับอัจฉริยะตัวน้อยเข้ามาในครอบครัวได้เลย เด็กที่มีพรสวรรค์เช่นนี้สามารถเก็บตัวได้เล็กน้อยเช่นกันดังนั้นระวังอย่าผลักดันให้พวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาไม่ชอบจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเชื่อว่า แม้ว่าเด็กบางคนอาจไม่ได้แสดงให้เห็นถึงสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่ามีไอคิวสูง แต่พวกเขาก็ยังสามารถเป็นอัจฉริยะในอนาคตได้  และเด็กทุกคนมีศักยภาพที่จะก้าวไปสู่ความฉลาดและความสำเร็จในแบบของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ยอมรับว่า การเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมเชิงบวกต่อตัวเด็กมีผลอย่างมากต่อความสามารถในอนาคตตลอดจนโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวต

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถพัฒนาอัจฉริยภาพภายในของบุตรหลานได้ โดยจัดสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ ในแต่ละวันควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าบุตรหลานของคุณได้ใช้เวลาในการอ่านหนังสือ ได้นอนหลับเพียงพอ ได้รับประทานอาหารที่ดี ออกกำลังกาย และมีลักษณะของความสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในชีวิตอยู่เสมอ เมื่อสภาพแวดล้อมรอบตัวลูกดีและเหมาะสมสำหรับการเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ จะช่วยส่งเสริมให้ลูกเกิดทักษะ ความฉลาดทางสติปัญญา (IQ)  ได้อีกทางหนึ่ง  และแน่นอนว่าเมื่อพ่อแม่พร้อมสนับสนุนลูกในทางบวกก็จะช่วยให้บุตรหลานของคุณประสบความสำเร็จในอนาคตได้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : parenting.firstcry.com , learningliftoff.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ประสบการณ์จริง! พ่อจน แนะเคล็ด (ไม่) ลับ สอนลูกเรียนเก่ง

พาลูกไปเรียนเสริมทักษะตั้งแต่เล็ก ช่วยลูกสมองดีจริงหรือ?

งานวิจัยเผยอยากให้ลูกฉลาดแม่ต้องมีความสุขก่อน

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up