แม้ว่าทารกตัวน้อยๆ จะยังไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาสาระจากหนังสือที่พ่อแม่อ่านให้ฟังก็ตาม ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะนั่นไม่ได้หมายความว่าลูกน้อยจะไม่สามารถเรียนรู้อะไรเลย เพราะการที่เด็กทารกได้ยินได้ฟังเสียง จะเริ่มให้ความสนใจ เริ่มหัดแยกแยะระดับเสียงที่แตกต่างกัน ทารกตัวน้อยๆ ชื่นชอบที่จะได้ยินเสียงของพ่อแม่ขณะอ่านหนังสือ ขณะร้องเพลง หรืออุ้มในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน พ่อแม่ควรถือโอกาสส่งเสียงหรือพูดคุยตั้งแต่ลูกยังแบเบาะ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้การฟังไปด้วย
นิทานภาพ ตัวหนังสือที่ปรากฏบนหนังสือนิทาน คือ โลกของภาษา การอ่านหนังสือให้ลูกฟังจึงมีความสำคัญมาก ต่อการพัฒนาของเด็ก นิทานเปรียบเหมือนอาหารมื้อหนึ่งของวัน เพราะเป็นอาหารสมองและอาหารใจของลูก พ่อแม่ทุกคนอยากให้เด็กรักการอ่านหนังสือ และเรียนเก่ง การทำให้เด็กรักการอ่านหนังสือไม่ยากเพราะเด็กมีความอยากรู้อยากเห็น ชอบสนุกสนาน ถ้าได้หนังสือที่ชอบและยากอ่าน
ไอน์สไตน์ ผู้มีความฉลาดทางปัญญา ( IQ) ประมาณ 180 ขณะที่คนทั่วไปมีไอคิวประมาณ 90-110 เท่านั้น ได้ให้ข้อคิดที่สำคัญไว้ว่า “ถ้าอยากจะให้ลูกฉลาด คุณแม่คุณพ่อควรจะเล่า นิทานให้ลูกฟังเป็นประจำ และถ้าจะให้ลูกฉลาดมากยิ่งขึ้น ต้องเล่านิทานให้ลูกฟังหลายๆ เรื่อง
ซึ่งการเล่านิทานแม้เพียง 5 – 10 นาทีต่อเล่ม แต่ผลที่มีต่อลูกและความสุขในครอบครัวนั้นมหาศาล ลูกจะได้รับการพัฒนาทักษะการฟังและการพูด สร้างจินตนาการแก่เด็ก ฝึกสมาธิให้เด็กรู้จักสำรวจให้จดจ่ออยู่กับเรื่องที่ฟัง ซึ่งเป็นพื้นฐานการเตรียมความพร้อม ด้านการอ่านหนังสือ และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กไปพร้อมกัน ซึ่งเหตุผลที่ควรเล่านิทานให้เจ้าตัวน้อยฟัง มีดังนี้
1. นิทานช่วยปลูกฝังให้เป็นคนช่างคิดช่างถามและช่างสังเกต เป็นโอกาสที่จะทำให้เด็กมีความฉลาด มั่นใจ และ แสดงความคิดเห็นถูกจังหวะ หรือที่เรียกว่ามีความฉลาดทั้งทางปัญญา (IQ) และฉลาดทางอารมณ์ (EQ)
2. นิทานช่วยให้เรียนรู้ภาษา การฟังนิทานจะทำให้เด็กได้รู้จักรูปประโยค การใช้ภาษาความหมายของคำ และเกิดทัศนคติที่ดีต่อการเรียนในอนาคต
3. นิทานทำให้เด็กวิเคราะห์ได้ดี การฟังซ้ำๆเด็กจะจำเรื่องราวได้ทั้งหมดและเด็กจะรู้จักมองสิ่งที่อยู่รอบตัว เข้าใจเรื่องได้ง่าย ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่จะจับประเด็นรวมทั้งการย่อความ
4. นิทานช่วยกระตุ้นจินตนาการ น้ำเสียงที่เล่าเรื่องจะกระตุ้นให้เด็กสร้างจินตนาการเป็นภาพการเล่านิทาน บ่อยๆจึงเป็นการสร้างจินตนาการไปพร้อมๆกับการรับรู้เรื่องใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน
5. นิทานช่วยบ่มเพาะคุณธรรม เพราะนิทานส่วนใหญ่สอดแทรกคุณธรรม ทักษะชีวิตหรือข้อคิดต่างๆที่ทำให้เด็กได้ตระหนักถึงคุณงามความดีและนำไป ปรับใช้ในชีวิตเมื่อโตขึ้น
6. นิทานช่วยสร้างสมาธิ ช่วงเวลาของการเล่านิทาน เด็กมักจะฟังนิทานอย่างตั้งใจหากเลือกเล่านิทานที่เหมาะกับช่วงวัยจะทำให้ เด็กเข้าใจ อยากรู้และติดตามต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นถือเป็นการสร้างสมาธิให้กับเด็กได้ เป็นอย่างดี
7. นิทานช่วยสร้างเด็กให้มีความรู้และความฉลาดทางอารมณ์ หากเด็กชอบฟังนิทานเด็กก็จะปรับตัวและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ เพื่อจะได้ฟังนิทานจากผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาและปรับตัวเพื่อให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
8. นิทานช่วยสร้างนิสัยรักการอ่าน การเล่าหรือการอ่านนิทานให้เด็กฟังจะช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่านเพราะการ อ่านจะทำให้มีสมาธิ และอ่านหนังสือได้รวดเร็ว
9. นิทานสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ช่วงเวลาดีๆที่พ่อจะเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟังเวลาสบายๆแห่งความรัก ความอบอุ่นที่จะสร้างความผูกพันและนำไปสู่ความเชื่อมั่นที่จะเสริมสร้าง ปัญญาของเด็กๆได้เป็นอย่างดี