ตรวจสุขภาพเด็ก 6 เดือน – ขอแสดงความยินดีกับการครบหกเดือน แห่งการเป็นพ่อแม่! คุณอาจรู้สึกว่าช่วงเวลาหกเดือน มันผ่านไปไวเหมือนโกหก เผลอแป๊บเดียวลูกอายุครึ่งขวบแล้ว! เชื่อว่าคุณได้ผ่านประสบการณ์การเลี้ยงลูกสุดทรหดมาพอสมควรแล้ว ทั้งการอดหลับอดนอน กินข้าวไม่อร่อย ปั๊มนมทำสต๊อก กล่อมให้ลูกนอน หรือ ทีวีคืออะไร? เมื่อลูกอายุครบ 6 เดือน ก็เหมือนเข้าสู่ช่วงวัยแห่งการพัฒนาทักษะอีกขั้นของเด็ก เช่น การนั่ง หรือคลาน เป็นต้น ตอนนี้คุณอาจต้องดูแลลูกให้มากขึ้น เพื่อที่เขาจะได้เคลื่อนไหวไปมา นอจากนี้ควรทราบรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการไปพบกุมารแพทย์ในตรวจสุขภาพลูกอายุครบ 6 เดือน เพื่อการเตรียมตัวและรับมือที่ดี
ตรวจสุขภาพเด็ก 6 เดือน แบบไหนถึงปกติ หมอจะตรวจอะไรบ้าง?
การเตรียมตัวก่อนพาลูกไปตรวจสุขภาพ
ควรเตรียมสมุดบันทึกสุขภาพ (เล่มสีชมพู) และเอกสารทางการแพทย์ทั้งหมดไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้ลูกน้อยของคุณจะได้รับการฉีดวัคซีนต่อเนื่องที่ฉีดต่อจากจากช่วง อายุ 2 เดือน และ 4 เดือน ซึ่งหลังกการฉีดวัคซีนลูกอาจมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดหรือมีไข้ สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อร่างกายพยายามสร้างความต้านทานต่อโรคร้ายแรงบางชนิด ทางที่ดีควรเตรียมยาบรรเทาอาการปวด ติดกระเป๋าเอาไว้ หรือทำการปรึกษาแพทย์โดยตรง
คำถามที่แพทย์อาจถาม
แพทย์อาจถามคำถามต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพโดยทั่วไปของทารก เช่น :
- ลูกน้อยของคุณเริ่มกลิ้งไปมาหรือพยายามนั่งด้วยตัวเองหรือไม่?
สำหรับพัฒนาการของลูกในช่วงนี้ ลูกน้อยของคุณจะเริ่มกลิ้งไปมาซ้ายขวา และพยายามนั่งด้วยตัวเอง เขาอาจพยายามยืนในขณะที่ถือบางสิ่งบางอย่างอยู่ในมือด้วย
- ลูกน้อยของคุณมีปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อคุณเรียกเขาหรือไม่?
ลูกน้อยของคุณจะเริ่มฟังอย่างระมัดระวังในช่วงเวลานี้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มตอบสนองต่อเสียงรอบตัวและอาจชอบดนตรีหรือเสียงของคนเป็นพิเศษ
- ลูกน้อยของคุณกระตือรือร้นและเอื้อมมือไปคว้าสิ่งของหรือไม่?
ลูกน้อยของคุณอาจเริ่มคว้าบางส่วนหรือทุกสิ่งที่เขาเห็นและสัมผัส
- จนถึงตอนนี้มีฟันกี่ซี่?
ในช่วงเวลานี้โดยปกติฟันหนึ่งหรือสองซี่จะเริ่มปรากฏขึ้น หมออาจจะถามว่าฟันโผล่รึยัง?
- ลูกน้อยของคุณมีปฏิกิริยาอย่างไร?
เนื่องจากลูกน้อยของคุณจะเริ่มตอบสนองต่อเสียง แพทย์อาจถามว่าทารกตอบสนองเมื่อถูกเรียกด้วยความตื่นเต้นหรือว่าเขาหัวเราะเมื่อเห็นหรือรู้สึกอะไรหรือไม่?
- ทารกได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคหรือความเจ็บป่วยเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือไม่?
แพทย์อาจถามเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยต่างๆ ของลูก เช่น ไอ หรือหวัด ที่ทารกอาจพบเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้ทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์
- ทารกสามารถเกาะยืนได้หรือไม่?
เนื่องจากทารกอายุ 6 เดือน มักมีแนวโน้มที่จะเริ่มยืนได้ด้วยตัวเองโดยการจับอะไรบางอย่าง ขาจึงต้องสามารถรับน้ำหนักตัวได้ แพทย์อาจขอให้ตรวจดูว่าขาของทารกแข็งแรงหรือไม่ หรือมีความผิดปกติที่ต้องได้รับการรักษา
5ประโยชน์ของการ วาดรูประบายสี ที่สะท้อนพัฒนาการลูก
ทำความเข้าใจ ลูกตีตัวเอง ลูกชอบทำร้ายตัวเอง เป็นเพราะอะไร?
เตือนแม่ สังเกตอาการ RSV รีบพาไปตรวจหากเข้าข่ายนี้!
แพทย์ตรวจอะไรบ้าง?
การตรวจสุขภาเด็ก 6 เดือน จะมีการตรวจสุขภาพดยทั่วไป และตรวจพัฒนาการของทารก เช่น:
- การวัดส่วนสูงและน้ำหนัก
ทารกมีการเติบโตที่เป็นมาตรฐานในช่วงพัฒนาการของพวกเขา แพทย์จะตรวจสอบความสูงและน้ำหนักของทารกและบันทึกไว้ในแผนภูมิการเจริญเติบโต (Growth Chart)
แผนภูมิการเจริญเติบโตช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบการเติบโตของทารกกับเด็กคนอื่น ๆ อย่างไรก็ตามอาจแตกต่างกันเล็กน้อยสำหรับทารกที่แตกต่างกันและไม่มีความกังวลหรือกังวล
- ตรวจการทำงานของหัวใจและปอด
หัวใจของทารกจะเต้นเร็วกว่าหัวใจผู้ใหญ่ เนื่องจากพวกเขาต้องการพลังงานมากกว่าและพวกเขามักจะหายใจสั้นและเร็ว แพทย์จะตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจของเด็กว่ามีสัญญาณการหายใจผิดปกติหรือไม่
- ตรวจตาและหู
ตาและหูเป็นส่วนที่บอบบางและมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อได้ง่าย แพทย์จะตรวจตาเพื่อตรวจหาท่อน้ำตาที่อุดตัน หรือมีการไหลออก และการติดเชื้อ ตรวจหู และสังเกตปฏิกิริยาของทารกต่อเสียง
- ตรวจขนาดศรีษะ
ทารกมีจุดอ่อน ๆ บนศีรษะซึ่งอาจส่งผลต่อร่างกายหากทารกขาดน้ำ แพทย์จะตรวจดูกระหม่อม (จุดอ่อน ๆ ) บนศีรษะของทารก เพื่อดูว่าทารกมีอาการผิดปกติใดๆ หรือไม่
- การตรวจสอบร่างกายโดยรวม
พัฒนาการโดยรวมของร่างกายมีความสำคัญมาก แพทย์จะตรวจหาความสามารถในการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และการหดตัวของกล้ามเนื้อและการควบคุมเมื่อนั่งตัวตรงเพื่อตรวจดูพัฒนาการของเด็ก
- กดท้อง
แพทย์กดบริเวณหน้าท้องของเด็กเบา ๆ เพื่อตรวจหาสัญญาณไส้เลื่อน หรือปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารที่ทารกอาจเผชิญอยู่
- การตรวจอวัยวะเพศ
อวัยวะเพศของทารกอาจติดเชื้อเนื่องจากผ้าอ้อม แพทย์จะตรวจดูสัญญาณของการติดเชื้อเนื่องจากผ้าอ้อม หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
คำถามที่คุณสามารถถามได้
นอกจากนี้คุณยังสามารถเตรียมคำถามที่จะถามได้ในการตรวจสุขภาพเด็ก 6 เดือนก่อนล่วงหน้าเพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการของเขา / เธอ
หากคุณยังไม่ได้เริ่มป้อนอาหารแข็งให้กับทารกคุณสามารถถามว่า:
- ควรแนะนำอาหารแข็งประเภทใดให้กับทารกตั้งแต่เริ่มแรก?
- การเปลี่ยนสีและกลิ่นของปัสสาวะหลังจากรับประทานอาหารแข็ง
- ควรกังวลเกี่ยวกับอาการแพ้ใด ๆ หรือไม่?
- มีวิตามินหรือแร่ธาตุเฉพาะที่ควรเพิ่มในอาหารสำหรับเด็กหรือไม่?
- ควรให้อัตราส่วนอาหารแข็งเทียบกับนมเท่าไหร่ เพื่อให้เด็กปรับตัวเข้ากับอาหาร
- การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับทารกในช่วงเวลาที่ผ่านมาคืออะไร?
- หากเด็กมีปฏิกิริยาแปลก ๆ หรือผิดปกติเล็กน้อย คุณควรถามอาการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้น
- วัคซีนปัจจุบันที่จะได้รับหลังจากเดือนนี้จะเป็นอย่างไร?
- หากเด็กได้รับผลข้างเคียงที่รุงแรงจากวัคซีนหรือยา ควรทำอย่างไร?
หากคุณมีข้อกังวลอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้อย่าลังเลที่จะถามแพทย์ จะดีกว่าที่จะมีความรู้ไว้ก่อนดีกว่ากังวลในภายหลัง
แพทย์อาจให้คำแนะนำเพิ่มเติม
แพทย์อาจให้คำแนะนำแก่คุณระหว่างการตรวจสุขภาพทารก 6 เดือน ซึ่งอาจรวมถึง:
เริ่มแนะนำอาหารแข็งให้กับทารก : คุณสามารถเริ่มจากผลไม้บดละเอียด หรือซีเรียลสำหรับทารก เนื่องจากทารกเพิ่งเริ่มทานอาหารแข็งพวกเขาอาจแนะนำให้คุณบดและผสมผสานอาหารให้กับเด็ก สังเกตปฏิกิริยาของทารกต่ออาหารและโทรปรึกษาแพทย์หากทารกแสดงอาการเจ็บป่วยบางอย่าง
ตามใจลูกมากขึ้น : นี่คือช่วงเวลาที่คุณต้องดูแลทารกอย่างเต็มที่ แพทย์อาจแนะนำให้สร้างโซนที่สะดวกสบายสำหรับลูก วัยนี้ลูกน้อยของคุณอาจส่งเสียงหัวเราะ พยายามหสโอกาสเล่นกับลูกบ่อยๆ พูดคุยกับเขาเมื่อเขามีการตอบสนอง สิ่งนี้ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของทารกได้เป็นอย่างดี
ฟันกำลังมา : วัยนี้เป็นช่วงที่ฟันน้ำนมเริ่มโผล่ออกมาช้าๆ เด็กอาจชอบเล่นน้ำลายเป็นพิเศษ ผ้าซับน้ำลายเตรียมให้พร้อม!! ซึ่งเป็นปกติของเด็กวัยนี้
กินนมด้วยตัวเอง : หากทารกพยายามหยิบอาหารและกินอาหารด้วยตัวเองอย่าห้ามเขา นี่เป็นช่วงเวลาที่เขากำลังพัฒนาและเริ่มเรียนรูู้
สุขอนามัยที่ดี : แพทย์อาจแนะนำให้คุณทำความสะอาดฟันและเหงือกของลูกอย่างสม่ำเสมอด้วยผ้าฝ้ายผืนเล็กหรือผ้าก็อซอย่างเบามือ วิธีนี้จะช่วยล้างแบคทีเรียในช่องปากออกไป คุณยังสามารถใช้ยาสีฟันเด็กเพื่อทำความสะอาดแบบเดียวกันได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ คือ คำปรึกษาทั่วไป เมื่อคุณพาลูกไปตรวจสุขภาพเมื่ออายุครบ 6 เดือน จำไว้ว่าเด็กแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน จึงมีระยะเวลาในการพัฒนาและการเติบโตของตัวเอง บางคนอาจโตเร็วหรือบางคนอาจโตช้าหน่อยไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ต้องกังวล อย่างไรก็ตามหากคุณมีบางอย่างที่ต้องการถามแพทย์หรือรับคำแนะนำควรถามให้ชัดเจนอย่าเก็บเอาไว้ให้กลายเป็นคำถามที่คาใจ ช่วงวัย 6 เดือน จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความสนใจอย่างเหมาะสมกับพฤติกรรมและความต้องการของลูก ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ทุกครั้งที่คุณรู้สึกถึงความผิดปกติๆเกี่ยวกับสุขภาพของทารกและการเติบโตของพวกเขา
เมื่อถึงวันที่ลูกเริ่มมีพัฒนาการที่ดีและเติบโตขึ้น การพูดคุยกับลูกและพยายามปลูกฝังในเรื่องการให้ความสำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดี คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง การปลูฝังลูกตั้งแต่ยังเล็กๆ จะช่วยให้เด็กเกิดทักษะความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี (HQ) รู้จ้กเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดื่มน้ำสะอาดวันละหลายๆ แก้ว และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ลูกก็จะเติบโตและมีพัฒนาการที่ดีสมวัยได้อย่างแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : parenting.firstcry.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ตรวจสุขภาพลูก รู้ก่อน รู้ทัน ป้องกันโรค
ทารกตัวเหลือง กินน้ำจะหายไหม พ่อแม่ควรทำอย่างไร?
ดูแลทารกแรกเกิด ตัดเล็บ อาบน้ำ ฯลฯ ครบจบในที่เดียว!!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่