จริงมั้ย ทารกแรกเกิด -3เดือน ดื่มน้ำแช่ทองคำทำให้ผิวดี - Amarin Baby & Kids
ทารกแรกเกิด

จริงมั้ย ทารกแรกเกิด -3เดือน ดื่มน้ำแช่ทองคำทำให้ผิวดี

Alternative Textaccount_circle
event
ทารกแรกเกิด
ทารกแรกเกิด

จริงมั้ย ทารกแรกเกิด – 3เดือน ดื่มน้ำแช่ทองคำทำให้ผิวดี

จากกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความ ลงในสื่อโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ให้นำน้ำแช่ทองคำ ไม่ว่าจะเป็นสร้อยทอง แหวน หรือเหรียญสลึง โดยอ้างเป็นความเชื่อโบราณ เมื่อให้ ทารกแรกเกิด ถึง 3 เดือนดื่ม จะทำให้มีผิวพรรณดี จริงหรือไม่ เรื่องนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ผลปรากฏดังนี้ค่ะ

ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่ ทารกแรกเกิด

องค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ มีคำแนะนำว่า ควรให้นมแม่ทันทีในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และควรให้นมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิตลูก จากนั้นให้นมแม่ต่อเนื่อง ควบคู่กับอาหารเสริมที่ปลอดภัย มีคุณค่าและเหมาะกับอายุ ตั้งแต่เดือนที่ 6 ไปจนถึงลูกอายุ 2 ขวบ หรือนานกว่านั้นยิ่งดี ทั้งนี้ มีงานวิจัยพบว่า เมื่อลูกอยู่ในวัย 12-23 เดือน น้ำนมแม่ในปริมาณ 15 ออนซ์ (ประมาณ 443 ซีซี) จะมีสารอาหารในสัดส่วนดังนี้

  • 29% ของ พลังงาน ที่ต้องการต่อวัน
  • 43% ของ โปรตีน ที่ต้องการต่อวัน
  • 36% ของ แคลเซียม ที่ต้องการต่อวัน
  • 75% ของ Vitamin A ที่ต้องการต่อวัน
  • 76% ของ โฟเลต ที่ต้องการต่อวัน
  • 94% ของ Vitamin B12 ที่ต้องการต่อวัน
  • 60% ของ Vitamin C ที่ต้องการต่อวัน

สารอาหารที่ในนมแม่ที่สร้างสมองมีอะไรบ้าง 

·กรดไขมัน –  เซลล์ในสมองส่วนใหญ่ สร้างมาจากกลุ่มของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนสายยาว ที่เรียกว่า DHA (docosahexaenoic acid) และ AA (arachidonic acid) กรดไขมันเหล่านี้ สนับสนุนการประมวลผลข้อมูล และการส่งผ่านข้อมูลที่เกิดขึ้นในสมอง

อย่างไรก็ตาม DHA และ AA ไม่พบในร่างกายมนุษย์ และกรดไขมันที่จำเป็นในการสังเคราะห์ ได้แก่ กรดอัลฟาไลโนเลนิก (ALA) และกรดไลโนเลอิก (LA)

กรดไขมันเหล่านี้สามารถหาได้จากอาหารของบุคคลเท่านั้น และนมแม่มีกรดไขมันเหล่านี้อยู่ในระดับสูงสุด (มาจากแหล่งเดียว)

ทารกแรกเกิด
จริงมั้ย ทารกแรกเกิด -3เดือน ดื่มน้ำแช่ทองคำทำให้ผิวดี

·ฟอสโฟลิปิด – การส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพระหว่างเซลล์ประสาทในสมองนั้นขึ้นอยู่กับการเชื่อมของเซลล์ประสาทกล่าวคือการเคลือบด้วยชั้นของไขมัน (ไมอีลิน) ซึ่งทำให้การส่งผ่านเร็วขึ้น คอเลสเตอรอลซึ่งพบในน้ำนมแม่ที่มีความเข้มข้นสูงก็จำเป็นสำหรับกระบวนการนี้เช่นกัน

·ทอรีน – ทอรีนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสมองและดวงตา โดยเฉพาะทอรีนมีบทบาทในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทในสมองซึ่งมีความสำคัญต่อการสื่อสารของเส้นประสาท อย่างไรก็ตามร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์กรดอะมิโนนี้ได้ดังนั้นการมีอยู่ในน้ำนมแม่จึงมีความสำคัญมาก

·โคลีน – บทบาทของโคลีนในการพัฒนาและการทำงานของสมองนั้นมีมากมาย จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ฟอสโฟลิปิดการส่งข้อมูลระหว่างเซลล์สมองและยังช่วยเพิ่มความจำ ในความเป็นจริงเมื่อเซลล์ขาดสารอาหารนี้พวกมันจะถูกตั้งโปรแกรมให้ตายในกระบวนการที่เรียกว่าอะพอพโทซิส

·สังกะสี – สังกะสีสนับสนุนการแบ่งตัวและการเจริญเติบโตของเซลล์ นอกจากนี้สังกะสียังได้รับการยกย่องว่าเป็นสารอาหารที่ช่วยปกป้องเซลล์ในสมองและระบบประสาทส่วนกลางเนื่องจากคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ

นมแม่ยังมีสารต่อสู้กับโรคหลายชนิด รวมถึงแอนติบอดี ซึ่งช่วยปกป้องร่างกายของบุตรหลานจากการติดเชื้อที่เป็นอันตราย นมแม่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ปกป้องทารกจากอาการแพ้ ยิ่งลูกของคุณมีสุขภาพดีเท่าไหร่ ก็จะสามารถพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ที่ฉลาดได้มากขึ้นเท่านั้น

ผลการวิจัยได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสมองของทารก ไม่เพียงแต่ประโยชน์ทางโภชนาการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความผูกพันที่เกิดขึ้นระหว่างการให้นมบุตรด้วย

จริงมั้ย ทารกแรกเกิด – 3เดือน ดื่มน้ำแช่ทองคำทำให้ผิวดี

ดังนั้น จากกรณีที่มีผู้โพสต์ระบุว่าให้นำน้ำแช่ทองคำ ไม่ว่าจะเป็นสร้อยทอง แหวน หรือเหรียญสลึง โดยอ้างเป็นความเชื่อโบราณ เมื่อให้ทารกแรกเกิดถึง 3 เดือนดื่ม จะทำให้มีผิวพรรณดี ทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง การให้ทารกดื่มน้ำแช่ทองคำไม่ให้มีผิวพรรณดี เป็นความเชื่อที่ผิดและไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคหรือโลหะหนักที่เกิดการกัดกร่อนเข้าสู่ร่างกายได้

โดยสิ่งที่เด็กวัยทารกควรได้รับและดีที่สุด คือ นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน โดยไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารอื่น เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับลูก มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิดที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต ช่วยพัฒนาสมอง จอประสาทตา ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ รวมทั้งเป็นอาหารที่ย่อยง่ายและถูกสร้างมาให้เหมาะสมที่สุดกับสภาพร่างกายของทารก

หลังจากทารกอายุครบ 6 เดือน เมื่อระบบย่อยและดูดซึมอาหารพัฒนาได้ค่อนข้างสมบูรณ์แล้วจึงให้เริ่มกินอาหารที่เหมาะสมตามวัย

การให้นมลูกนอกจากจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางร่างกายให้ลูกแล้ว ยังทำให้เกิดสายสัมพันธ์ที่ดี ผ่านการโอบกอดขณะให้กินนมแม่ ก่อให้เกิดความผูกพัน ลูกได้รับการกระตุ้นทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 ผ่านการมองเห็นแม่ ได้ยินเสียงหัวใจแม่ ได้กลิ่นนมแม่ รับรสนมแม่ มือสัมผัส และได้รับการโอบกอดจากแม่ ทำให้ช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางด้านสมองและสติปัญญา ที่สำคัญ การโอบกอด การสบตา พูดคุยของแม่ขณะให้นมลูก จะทำให้แม่และลูกรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย, ยูนิเซฟ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

4 วิธีกระตุ้นนมแม่ อย่างได้ผลดี ไม่เหนื่อย ไม่เจ็บ

5 ปัญหาการให้นมแม่ ที่แม่ต้องเจอ พร้อมวิธีแก้ปัญหา

ผลวิจัยล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมองระดับโลกชี้ สฟิงโกไมอีลิน ในนมแม่ มีส่วนช่วยสร้างให้ลูกสมองดี เรียนรู้ไว

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up