หากคุณแม่ต้องการซื้อ ปรอทวัดไข้ลูก ซึ่งในท้องตลาดมีขายอยู่มากมายหลายชนิด แล้วความจริง ปรอทวัดไข้มีกี่แบบ และแบบไหนสามารถ วัดไข้ ลูกได้แม่นยำที่สุด ตามมาดูกันค่ะ
ปรอทวัดไข้มีกี่แบบ เลือกแบบไหนวัดไข้ลูกแม่นยำที่สุด
ปรอทวัดไข้ทารก หรือ ปรอทวัดไข้สำหรับเด็ก เป็นไอเท็มสำหรับในหมวด ของใช้ลูก ที่ขาดไม่ได้ เพราะลูกน้อยสามารถป่วยไข้ได้ตลอดเวลา ซึ่งไข้เป็นสิ่งบ่งบอกว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกาย มักทำให้ลูกงอแง ซึ่งหากลูกอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 – 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป จะถือว่า ลูกกำลังป่วยเป็นไข้
ทั้งนี้การใช้เพียงความรู้สึกจากการสัมผัสด้วยมือว่าลูกมีไข้สูงหรือไม่ อาจไม่เพียงพอเพราะมีความคลาดเคลื่อนได้มาก และในกรณีที่ลูกมีไข้สูงมากจริง อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ ไม่ทันได้ระวังว่าจะเกิดการชักจากไข้สูง เพราะไม่ทราบว่าขณะนั้น อุณหภูมิของตัวลูกเป็นเท่าไรกันแน่ ทำให้ไม่ได้รีบให้ยาลดไข้และเช็ดตัว เพื่อทำให้ไข้ลงได้ทันการณ์
ซึ่งหากลูกน้อยเจ็บป่วยมีไข้ขึ้นมา เมื่อคุณพ่อคุณแม่พาไปหาคุณหมอเพื่อปรึกษาเรื่องการเจ็บป่วยของลูกนั้น ควรจะบอกคุณหมอเสมอว่าวัดไข้ได้เท่าไร และวัดที่ส่วนไหนของร่างกายรวมถึงชนิดของปรอทที่ใช้ด้วย เพื่อที่จะได้ช่วยคุณหมอวินิจฉัยอาการป่วยของลูกน้อยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
วิธีการวัดไข้
ทั้งนี้การ วัดไข้ เป็นการวัดค่าอุณหภูมิของร่างกายด้วยปรอท หรือเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบต่าง ๆ เพื่อดูว่าเป็นปกติหรือมีอาการไข้ ดูประสิทธิภาพในการใช้ยาลดไข้ และช่วยคำนวณหาวันไข่ตกในผู้หญิงตั้งครรภ์ โดยการวัดไข้สามารถวัดได้จากหลายจุดในร่างกาย และก่อนที่จะไปดูว่า ปรอทวัดไข้มีกี่แบบ คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จักวิธีมาตรฐานที่นิยมใช้วัดไข้ให้ลูก โดยสามารถแบ่งออกเป็น 5 วิธี ดังนี้
- ทางปาก (Orally) เป็นการวัดอุณหภูมิลูกจากใต้ลิ้นภายในช่องปาก
- ทางรักแร้ (Axillary) เป็นการวัดไข้โดยให้ลูกหนีบเทอร์โมมิเตอร์ไว้ที่รักแร้ แต่ค่าอุณหภูมิปกติจะต่ำกว่าการวัดทางปาก
- ทางทวารหนัก (Rectally) เป็นการวัดไข้โดยการสอดเทอร์โมมิเตอร์เข้าไปทางทวารหนักของลูกน้อย ซึ่งค่าอุณหภูมิปกติจะสูงกว่าการวัดทางปาก
- ทางหู (By Ear) เป็นการวัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิทัลทางช่องหูของลูกน้อย
- ทางผิวหนัง (By Skin) เป็นการวัดไข้บริเวณหน้าผากของลูกน้อย ด้วยเทอร์โมมิเตอร์ที่มีลักษณะเป็นแผ่นแปะขนาดเล็กและมีตัวเลขแสดงอุณหภูมิ
อ่านต่อ >> “ข้อควรรู้ก่อนเลือกปรอทวัดไข้ให้เหมาะกับลูกน้อย” คลิกหน้า 2
อ่านต่อบทความอื่น คลิก :