พัฒนาการทารก 8 เดือน มีความอยากรู้ในทุก ๆ สิ่งรอบตัว เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ทุกวัน ส่วนการเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย และอารมณ์ก็พัฒนาขึ้นมากเช่นกัน
พัฒนาการทารก 8 เดือน วัยแห่งความอยากรู้อยากเห็น!!
เด็กในวัย 8 เดือน พัฒนาการทารก 8 เดือน จะมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ มากขึ้นอย่างชัดเจน ทารกไม่เพียงแค่เรียนรู้โลกรอบ ๆ ตัว โดยการนำสิ่งของเข้าปาก แต่ยังเรียนรู้ถึงการเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น และถึงแม้ว่าทารกจะยังไม่เริ่มเดิน แต่คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้ถึงขาที่แข็งแรงขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการก้าวเดินในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้พัฒนาด้านต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้นำข้อมูลมาฝากแล้วค่ะ
พัฒนาการด้านร่างกาย
ร่างกายทารกในวัยนี้ จะมีพัฒนาการที่ชัดเจนมาก โดยจะมีน้ำหนักและส่วนสูงเพิ่มมากขึ้น จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 400 กรัมต่อเดือน ทั้งนี้การเจริญเติบโตของทารกแต่ละคนอาจมีความแตกต่างกัน หากทารกมีน้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน และมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องวิตกกังวลใด ๆ
ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของทารกก็สามารถเพิ่มความสูงได้เช่นกัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถเสริมพัฒนาการได้ โดยให้ลูกได้เคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ
ทารกเพศชาย
น้ำหนักประมาณ 7.2 – 9.5 กิโลกรัม
ส่วนสูงประมาณ 65.9 – 73.2 เซนติเมตร
ทารกเพศหญิง
น้ำหนักประมาณ 6.6 – 9 กิโลกรัม
ส่วนสูงประมาณ 64.2 – 72.8 เซนติเมตร
พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อ
- ทารกจะสามารถลุกนั่งเองได้
- คลานได้คล่อง โดยเฉพาะเมื่อเจอสิ่งที่สนใจจะคลานได้อย่างรวดเร็ว
- เริ่มเกาะยืนได้บ้างแล้ว โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ เช่น ตู้ เตียง โต๊ะ ในการพยุงตัวขึ้นยืน คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกเกาะยืนบ่อย ๆ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อขา เตรียมพร้อมสำหรับการเดินในไม่ช้านี้
- ใช้นิ้วหยิบของชิ้นเล็ก ๆ ได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรระวัง ไม่นำของชิ้นเล็ก ๆ ไว้ใกล้ลูก เพราะอาจหยิบเข้าปาก เป็นอันตรายได้
- ชี้นิ้วไปที่สิ่งของต่าง ๆ ได้ โดยจะชี้นิ้วเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่หยิบของที่ต้องการให้ หรือชี้ไปที่สิ่งของแปลก ๆ เพราะสงสัย และอยากรู้ว่าคืออะไร
อย่างไรก็ตาม ทารกบางคนอาจคลานช้า แต่หากอายุ 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่เริ่มคลาน หรือคลานด้วยลักษณะที่ผิดปกติ ควรนำทารกไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ นอกจากนี้ การยืนเกาะของทารกบางคนอาจเริ่มช้า อาจเริ่มเมื่ออายุ 9 เดือนได้
พัฒนาการด้านประสาทสัมผัสและการมองเห็น
- การมองเห็นดีขึ้น สามารถมองเห็นได้ในระยะที่ไกลขึ้น และสามารถแยกความลึกความตื้นของภาพที่เห็นได้ดีขึ้นด้วย
- สามารถแยกแยะความแตกต่างของรูปร่างหรือพื้นผิวของสิ่งของต่าง ๆ ได้
- มองตามของที่ตกลงพื้น
พัฒนาการด้านอารมณ์
- แสดงความรู้สึกต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น จะปรบมือเมื่อรู้สึกตื่นเต้นดีใจ และโบกมือเมื่อจะจากกัน
- มีอาการติดพ่อแม่ จะรู้สึกกลัว หรือวิตกกังวลหากคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ด้วย ดังนั้น หากมีความจำเป็นต้องให้ลูกอยู่กับผู้อื่น ควรอยู่กับลูกให้ลูกรู้สึกคุ้นเคยกับผู้ที่จะอยู่ด้วยก่อน ส่งสัญญาณให้ลูกรู้ล่วงหน้าว่าพ่อแม่จะไม่อยู่ด้วยสักพัก โดยการหอมแก้ม โบกมือ เป็นต้น แล้วบอกลูกว่าพ่อแม่จะไปไหน และพูดให้ลูกมั่นใจว่าพ่อแม่จะกลับมา
- ในวัยนี้สามารถจดจำใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่และผู้ที่คุ้นเคยได้ ดังนั้นจึงรู้สึกกลัวคนแปลกหน้า จะร้องไห้เสียงดังหรือผลัก หากโดนคนแปลกหน้าอุ้มหรือจับตัว
พัฒนาการทางภาษาและการเข้าสังคม
- เริ่มพูดเลียนแบบเสียงคำสั้น ๆ ได้ชัดขึ้น เช่น มะมา ปะปา หม่ำ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรพูดคุยกับลูกบ่อย ๆ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาของลูก
- เข้าใจคำศัพท์ หรือประโยคง่าย ๆ ได้ เช่น นม หม่ำ สวัสดี ลาก่อน เป็นต้น
- สนใจสิ่งรอบ ๆ ตัวมากขึ้น และสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งของกับการกระทำต่าง ๆ หรือผลลัพธ์จากการกระทำของตัวเองได้ เช่น จะรู้ว่าถึงเวลาทานอาหาร เมื่อนั่งอยู่บนเก้าอี้สูง หรือเก้าอี้ทานข้าว และรู้ว่าถึงเวลานอน เมื่ออยู่บนเตียงนอน เป็นต้น
การรับประทาน
ทารกวัย 8 เดือน ยังคงดื่มนมแม่หรือนมผงอยู่ประมาณ 3 – 5 ครั้งต่อวัน ร่วมกับการให้อาหารบดหยาบ อาหารเสริม หรืออาหาร Finger Food
ตัวอย่างอาหารบดหยาบหรืออาหารเสริม และปริมาณอาหารที่ควรได้รับต่อวัน
- ข้าวบดหยาบประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ทั้งฟอง สลับกับเนื้อปลา เนื้อหมู หรือเนื้อไก่ 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักสุกบดหยาบ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ สลับผักให้หลากหลาย เช่น แครอท อะโวคาโด ฟักทอง บร็อคโคลี่ ผักโขม เป็นต้น
- น้ำต้มผักกับกระดูกหมู 1 มื้อ
- ผลไม้สุกหลังอาหาร เช่น แอ๊ปเปิ้ล กล้วย มะละกอ กีวี มะม่วง แตงโม บลูเบอรี่ เป็นต้น
อาหาร Finger Food คือ อาหารที่มีขนาดพอดีคำ ที่ทารกสามารถหยิบรับประทานเองได้ ช่วยในการฝึกให้ทารกรับประทานอาหารเอง
ในวัยนี้ คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้ถึงความพร้อมในการรับประทานอาหารด้วยตัวเองของทารก โดยทารกจะเอามือคว้าช้อนที่กำลังป้อนอยู่ หรือคว้าอาหารในจาน ซึ่งการการหยิบอาหารรับประทานเองนี้ จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กของทารก
อย่างไรก็ตาม การเลือกอาหาร Finger food ก็ควรระวัง นอกจากอาหารควรจะเป็นชิ้นเล็กขนาดพอดีคำแล้ว ยังต้องพิจารณาถึง ความนิ่ม และความหนืด อีกด้วย ควรระวังทารกสำลัก หรืออาหารติดคอได้
ตัวอย่างอาหาร Finger Food มีดังนี้
- ไข่กวน ไข่คน หรือไข่ต้มสุก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ
- พาสต้าผัดกับเนย น้ำมันมะกอก หรือซอสมะเขือเทศแบบโซเดียมต่ำ หั่นพอดีคำ
- เต้าหู้หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี
- ผักนึ่งหรือต้ม เช่น แครอท มันเทศ มันฝรั่ง หั่นพอดีคำ
- ชีสต่าง ๆ หั่นพอดีคำ
- ถั่วต่าง ๆ บดพอหยาบให้ทารกสามารถหยิบได้
- ไก่ชิ้น ปลาชิ้น เนื้อบด หมูบด หั่นพอดีคำ
การนอน
ทารกในวัยนี้ ควรนอนวันละประมาณ 14 ชั่วโมง โดยนอนตอนกลางคืนประมาณ 10 -11 ชั่วโมง ทั้งนี้ทารกบางคนอาจหลับยาวถึงเช้า และนอนกลางวันรวมทั้งหมดประมาณ 3-4 ชั่วโมง ประมาณ 2 ครั้ง
วิธีดูแลทารก 8 เดือน
การดูแลทารกในวัยนี้ ซึ่งเป็นวัยเริ่มคลาน และเริ่มฝีกเกาะยืน จึงควรต้องมีความระมัดระวังดังนี้
- ทำความสะอาดพื้นอยู่เสมอ และเก็บของต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อทารก เช่น สารเคมี ของชิ้นเล็ก ๆ เพราะทารกอาจนำเข้าปากได้
- ปิดรูปลั๊กไฟ ป้องกันทารกเอานิ้วแหย่เข้าไป
- ควรปิดประตูห้องต่าง ๆ ให้สนิท ติดประตูกั้นบันได ป้องกันทารกปีนขึ้นบันได เพราะอาจตกลงมาจากบันไดได้
- ปิดที่ปิดลิ้นชัก กันทารกเปิดลิ้นชักแล้วร่วงทับตัว
- ไม่ควรให้ทารกดูโทรทัศน์เป็นเวลานาน ควรเปิดเพลง ร้องเพลง อ่านนิทาน เล่นจ๊ะเอ๋ เล่นตบมือ เล่นจับปูดำ หรือพูดคุยแทน เพราะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนี้คือ พัฒนาการทารก 8 เดือน ที่ ทีมกองบรรณาธิการ ABK รวบรวบข้อมูลมานำเสนอให้แก่คุณพ่อคุณแม่ เพื่อสังเกตถึงพัฒนาการของลูกน้อยว่ามีพัฒนาการที่สมวัยหรือไม่
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.pobpad.com, https://www.sanook.com, https://www.synphaet.co.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่