ทารกเป็นเบาหวาน ได้อย่างไร
อาการของเด็กที่พบว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากมีภาวะขาดอินซูลินจึงไม่สามารถนำน้ำตาลในกระแสเลือดเข้าไปใช้เป็นพลังงานในเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ทำให้อวัยวะต่างๆ มีภาวะขาดน้ำตาลหรือพลังงาน ร่วมกับการมีน้ำตาลสูงในกระแสเลือด
ในระยะแรกของโรคเด็กๆ จะมีอาการอ่อนเพลียง่าย รับประทานอาหารและน้ำมากขึ้น แต่น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง มีปัสสาวะมากกว่าปกติ หากไม่ได้รับการรักษาร่างกายจะมีการสลายพลังงานสะสมในร่างกายซึ่งทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรดจากสารคีโตน ที่เรียกว่าภาวะ “ดีเคเอ” (DKA : diabetic ketoacidosis) ตามมา
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หอบเหนื่อย ซึมลงจากภาวะสมองบวม รวมทั้งอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
โดยแพทย์ต้องอาศัยการซักประวัติอาการ ร่วมกับการเจาะตรวจน้ำตาลในเลือด เมื่อพบแน่ชัดว่าเป็นโรคเบาหวาน จะรักษาด้วยการให้อินซูลินทดแทนโดยฉีดเข้าชั้นไขมันวันละ 3-4 ครั้ง หรือผ่านเครื่องจ่ายอินซูลินเข้าร่างกายอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการเจาะตรวจน้ำตาลปลายนิ้วเพื่อช่วยในการปรับยาอินซูลินให้เหมาะสม เพื่อป้องกันอันตรายจากภาวะน้ำตาลสูงและน้ำตาลต่ำระหว่างการรักษา
นอกจากนี้ อาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 จะไม่ได้เน้นการจำกัดพลังงานดังเช่นในเด็กที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ควรเป็นอาหารที่มีพลังงานและสัดส่วนอาหารที่เหมาะสมตามวัยเพื่อให้เพียงพอต่อการเจริญเติบโต
ทั้งนี้ เด็กที่เป็นเบาหวานอาจพบภาวะแทรกซ้อนได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยภาวะแทรกซ้อนในระยะสั้นเกิดได้จากภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดสูงมากร่วมกับมีเลือดเป็นกรดจากสารคีโตนหรือ “ดีเคเอ” ซึ่งอาจเกิดจากการขาดอินซูลินหรือมีภาวะเจ็บป่วยที่กระตุ้นให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าปกติ
นอกจากนี้ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำซึ่งเกิดจากการได้รับยาอินซูลินในปริมาณที่ไม่เหมาะสมกับปริมาณอาหารและระดับน้ำตาลในเลือดก็จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้เช่นกัน
แนวทางการรักษา ทารกเป็นเบาหวาน
นอกจากการรักษาด้วยยาลดระดับน้ำตาลในเลือดหรือการพิจารณาให้ insulin ทดแทนตามเห็นสมควรแล้ว กุมารแพทย์ยังจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการดูแลโภชนาการให้เหมาะสมตามวัย รวมไปถึงการออกกำลังกาย และนัดมาติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคเบาหวานมีสุขภาพแข็งแรง และสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนกับเด็กปกติทั่วไปมากที่สุด
แม้ว่าในปัจจุบัน โรคเบาหวานเป็นโรคที่ยังรักษาไม่หายขาด และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ก็อาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆของร่างกายได้
นอกจากนี้ การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค ทางเลือกในการรักษา รวมทั้งสาเหตุและการดำเนินโรครวมทั้งภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เช่นเดียวกันกับการมีส่วนร่วมของครอบครัวและโรงเรียน จะทำให้การรักษาประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก :
- แม่แชร์! เป็นเบาหวานตอนท้อง และวิธีคุมน้ำตาลแบบง่ายและได้ผลดี
- แม่แชร์! ลูกเกือบช็อคเพราะ เบาหวานในเด็ก
- WHO เตือน! อาหารทารก มีน้ำตาลสูงเกินไป เสี่ยงหลายโรคร้าย
ขอบคุณข้อมูลจาก : หมอนัท http://www.bloggang.com , www.khaosod.co.th , med.mahidol.ac.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่