รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) ได้มีหนังสือถึงสถานพยาบาลของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ขอความร่วมมือเร่งรัดมาตรการเตรียมความพร้อมสำหรับ สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2560 เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่เข้าสู่ช่วงฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่และโรคไข้หวัดนก จนถึงประมาณเดือน มี.ค.
สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2560
เมื่อวันที่ 28 มกราคม ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์โรคติดเชื้อ โรคอุบัติใหม่ สภากาชาดไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ทั้งไข้หวัดใหญ่ 2009 ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B พบว่านอกจากอาการทั่วไป คือมีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย หรือหากถึงขั้นอาการรุนแรงจะมีปอดอักเสบ ปอดบวมซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตแล้ว ยังต้องเฝ้าระวังอาการทางสมองที่เหมือนกับภาวะสมองอักเสบจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียตัวอื่นๆ ด้วย เพราะเมื่อปี 2557 มีการสอบสวนโรค พบว่าในจำนวนผู้ป่วยกว่า 2,000 ราย ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วยเสียชีวิตมากถึง 22 ราย ในจำนวนนี้ที่เกิดจากสาเหตุภาวะปอดอักเสบ 21 ราย และมี 1 รายเสียชีวิตจากภาวะสมองอักเสบ ซึ่งเป็นวัยรุ่นอายุราว 14-15 ปี
“ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา มีเด็กเป็นพี่น้องกัน 2 คนในจังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บีและมีภาวะสมองอักเสบ ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 26 มกราคม เด็กเสียชีวิต 1 คน ส่วนอีกคนต้องย้ายไปรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ศักยภาพสูงกว่า แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้สึกตัว อย่างไรก็ตาม ภาวะสมองอักเสบจากไข้หวัดใหญ่นั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย ไม่เฉพาะเด็กเท่านั้น เพราะเมื่อปี 2559 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ทำการรักษาผู้ใหญ่ที่ป่วยด้วยโรคสมองอักเสบจากไข้หวัดใหญ่มาแล้ว แต่โชคดีที่รักษาได้ทัน”
ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญในขณะนี้คือ อยากให้แพทย์ที่ทำการรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่นึกถึงโรคทางสมองไว้ด้วย เพื่อจะได้ทำการรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที อย่าดูแค่โรคระบบทางเดินหายใจอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านมา สำหรับประชาชนเองนั้น แนะนำหลักการปฏิบัติตัวเช่นเดิมคือ หากมีไข้ ไอ จาม ขอให้สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชนเพื่อป้องการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
——————–
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน ( EOC) ร่วมกับผู้บริหารกรมฯ โดยหารือประเด็น สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2560 ซึ่งภายหลังการประชุมได้จัดทำเป็นข้อมูลเผยแพร่ ดังนี้
สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่ต้นปี จนถึงวันที่ 22 มกราคม 2560 พบผู้ป่วย 3,125 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ อายุที่พบมากที่สุดคือ ช่วงอายุ 25-34 ปี รองลงมาคือ อายุ 35- 44 ปี และอายุ 15-24 ปี ตามลำดับ
ขณะที่จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรกคือ ลำพูน เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก
โดยสายพันธุ์ที่พบบ่อยคือ Influenza A (subtype H1N1), Influenza A (subtype H3N2) และ Influenza B
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่