โดยโพสข้อความดังนี้…
😢😢เตือนนะค้ะ (แชร์ได้) คุนพ่อคุนแม่ที่ชอบสูบบุหรี่ในห้อง อันนี้หลานนะค้ะ หลานเปนหอบและปอดติดเชื้อค่ะ และตอนนี้ปอดน้องก้อหายไปครึ่งนึง1ข้างค้ะ #คุนหมอบอกว่าสาเหตุเปนเพราะได้สูดรับควันบุหรี่มากไป ต้องคอยให้อ้อกซิเจ้นทุกๆ50นาทีค่ะ ที่น้องได้รับควันบุหรี่มากๆเพราะว่าคนเลี้ยงหลานเวลาอยู่ในห้องเค้าชอบดูดบุหรี่ค่ะ และในห้องไม่มีอากาศที่ถ่ายเท 😭😭สงสารหลานค่ะหมอต้องคอยดูดสเรจ แต่ไม่รุ้ว่าตอนนี้หมอจะยังดูดสเรจให้อยู่รึป่าว (แม่และแฟนแม่เราเองค่ะคนเลี้ยง) ไม่มีไครเจตนาให้มันเกิดขึ้นทั้งสิ้น ตอนนี้หมอพ่นยาทุก4ชม. และดูดน้ำมูก
หนูน้อยผู้น่าสงสารนี้อายุได้เพียง 8 เดือน และคนที่สูบบุหรี่คือคนใกล้ชิดที่เลี้ยงดูหนูน้อยนั่นเอง ซึ่งผู้เป็นน้า (ผู้โพสเรื่องราวนี้) ได้เผยว่า เป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่มีไครเจตนาให้เรื่องนี้เกิดขึ้น…จึงได้ออกมาโพสเตือนคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายที่มีลูกน้อย และมีคนสูบบุหรี่ ควรอยู่ให้ห่างไกลจากเด็กมากที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีกลิ่นควันบุหรี่ติดเสื้อผ้าผู้สูบอยู่ดี หากผู้สูบจำเป็นต้องเลี้ยงเด็กก็ควรเลิกสูบเป็นดีที่สุดนะคะ
เพราะความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นของสารเคมีที่สูดหายใจเข้าไป ถ้าวัดระดับสารโคตินินในเลือดได้ตั้งแต่ 1 mg/ml ขึ้นไปก็ถือว่ามีอันตรายต่อสุขภาพ หรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ ตามมามากขึ้น เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง หูอักเสบ โรคภูมิแพ้ ภาวะ SIDS (sudden infant death syndrome) และการเจริญเติบโตช้า เป็นต้น
พ่อแม่และผู้ใหญ่มักคิดว่ามีเฉพาะกลิ่นบุหรี่เท่านั้นที่ตกค้างอยู่ตามสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตราย แต่อันที่จริงมีสารเคมีที่เป็นอันตรายจำนวนมากตกค้างอยู่ด้วย ลูกจึงไม่ได้หายใจเอาเฉพาะกลิ่นเข้าไปแต่ได้รับทุกอย่างจากบุหรี่เข้าไปด้วยนั้นเองค่ะ
อ่านต่อ >> “ควันบุหรี่มือสาม…อันตรายกว่าที่คิด” คลิกหน้า 2
ขอบคุณเรื่องราวจากคุณแม่ ในเพจ แหล่งรวบรวมคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้(mom)
บทความโดย: แพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด