วิธีแก้ปัญหาลูกดูดนมข้างเดียว
Amarin Baby & Kids ขออนุญาตนำบทความของ พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ ที่เคยโพสต์ให้ความรู้เอาไว้มาแบ่งปัน ดังนี้
#เต้านม 2 ข้างโตไม่เท่ากัน ทำอย่างไรดี
#ปั๊มนมสองข้างได้ไม่เท่ากัน
#ลูกถนัดดูดข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้างหนึ่ง
“ให้ลูกดูดนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด จนปัจจุบันลูกอายุ 6 เดือนกว่าแล้ว แต่หน้าอก 2 ข้างของแม่มีขนาด แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ควรทำอย่างไรดี”
ขณะให้นมลูก วิธีป้องกันไม่ให้หน้าอกมีขนาดไม่เท่ากัน คือ ให้ผลัดกันเป็นข้างแรกของการดูดแต่ละครั้ง เพราะข้างแรกจะถูกดูดแรงกว่า นานกว่า และถูกดูดจนหมดเกลี้ยงเต้า จึงได้รับการกระตุ้นมากกว่า สร้างน้ำนมได้มากกว่า จึงมีขนาดใหญ่กว่า ขณะที่ข้างที่ดูดทีหลัง จะถูกดูดเบาลงและไม่หมดเต้า น้ำนมจึงไม่ถูกผลิตเพิ่ม
หากแม่ไม่ทราบหลักการนี้ อาจทำให้การเอาลูกเข้าเต้าข้างแรกเป็นไปตามความถนัดและความเคยชิน หรือแม่อาจมีหัวนมข้างหนึ่งสั้นหรือบอด ทำให้ยากในการพยายามเอาลูกเข้าเต้า เต้านมข้างที่ถูกดูดข้างแรกจึงเป็นข้างเดิมตลอด คุณแม่ก็จะมีเต้านมโตไม่เท่ากันเหมือนนางมณโฑ ส่วนการยึดหลักการ ให้เริ่มดูดจากข้างที่เสร็จทีหลังของการดูดคราวที่แล้ว ไม่น่าจะถูกต้อง เพราะ บางครั้งลูกอาจดูดนมแค่ข้างเดียวก็อิ่มแล้ว ดังนั้นครั้งต่อไปของการดูดก็ต้องกลับไปดูดที่ข้างเดิม อีกข้างหนึ่งก็จะไม่ถูกดูดเลย ในกรณีที่เกิดปัญหาไม่เท่ากันแล้ว
วิธีแก้ไขคือ พยายามให้ลูกดูดข้างที่เล็กกว่าเป็นข้างแรกก่อนเสมอ ลูกมักยอมดูดหากไม่หิวจัดมาก แต่ถ้าหิวมากอาจไม่ยอมดูดและร้องไห้โวยวาย คุณแม่อาจเริ่มที่ข้างมากก่อนได้ แต่อย่านานนักแล้วรีบย้ายมาดูดอีกข้างให้เกลี้ยงเต้าสนิท เพื่อให้มีการส่งสัญญาณให้สร้างน้ำนมมาเพิ่ม หากดูดไปโวยวายไป ก็ย้ายไปดูดข้างที่มีมากเป็นระยะๆ แล้วก็กลับมาดูดข้างที่ต้องการกระตุ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหากไม่ถึงเวลาดูดนมของลูก คุณแม่ควรพยายามกระตุ้นข้างที่เล็กกว่าโดยการปั๊มบ่อยๆ ในที่สุดเต้านมอาจกลับมามีขนาดเท่ากันหรือใกล้เคียงกันได้อีก
แต่หากทำไม่สำเร็จก็ไม่ต้องกังวลเพราะเมื่อแม่หยุดให้นมแล้ว ในที่สุดเต้านมจะกลับมาเหมือนตอนก่อนให้นมลูกแน่นอน ในระหว่างนี้ที่ยังมีขนาดแตกต่างกันมากจนใส่เสื้อผ้าแล้วยังเห็นได้ชัดเจน คุณแม่อาจเสริมฟองน้ำในข้างที่เล็กกว่า เพื่อให้ดูสมดุลสวยงามได้ค่ะ
ในบางครั้งเต้านมโตไม่เท่ากันอาจเกิดจากการมีเนื้องอกซ่อนเร้นอยู่ ดังนั้นคุณแม่ควรคอยสำรวจเต้านมดูว่ามีก้อนผิดปกติหรือไม่ หากไม่แน่ใจควรพบแพทย์เพื่อให้ช่วยตรวจดูค่ะ