วิธีการ เคาะปอดขับเสมหะ ให้ลูกน้อย เพื่อให้หายใจสะดวกขึ้น เพราะเสมหะเกิดจากการระคายเคืองหรืออักเสบของทางเดินหายใจและปอด ทำให้เยื่อบุผิวภายในของทางเดินหายใจและปอดผลิตน้ำคัดหลั่ง มีลักษณะเหลวใส ถ้าสั่งออกมาได้ทางจมูกเราก็มักเรียกว่าน้ำมูก ถ้าออกผ่านทางปากก็มักเรียกว่าเสมหะ
เคาะปอดช่วยขับเสมหะ ได้อย่างไร?
น้ำมูกที่เกิดขึ้นในจมูกและโพรงจมูกจะกระตุ้นปลายประสาทที่อยู่ในโพรงจมูก ทำให้เกิดการจาม
ส่วนเสมหะที่เกิดในคอ หลอดลม และถุงลมนั้น ถ้ามีการไหลมายังหลอดลมใหญ่ก็จะกระตุ้นปลายประสาทให้มีการไอ
การจามและไอนี้เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเพื่อขับสิ่งแปลกปลอมออกจากทางเดินหายใจและปอด เพื่อให้อากาศที่หายใจผ่านเข้าไปถึงถุงลมในปอดได้อย่างสะดวก ก๊าซออกซิเจนจะซึมผ่านผนังถุงลมเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อนำไปใช้เลี้ยงทั่วร่างกายและสมอง
หากเสมหะถ้าขังอยู่ในปอดก็จะทำให้อากาศไม่สามารถผ่านเข้าไปถึงผนังถุงลมและมีการแลกเปลี่ยนก๊าซได้ ร่างกายและสมองจะมีภาวะออกซิเจนต่ำและคาร์บอนไดออกไซด์สูง เกิดอาการเหนื่อยง่าย หน้ามืด ตัวเขียว และถ้าเสมหะขังอยู่นานผนังถุงลมจะเสื่อมสภาพ
นอกจากนั้นเสมหะถือว่าเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อโรค ถ้าเสมหะมีการติดเชื้อก็จะเปลี่ยนจากของเหลวใสเป็นข้นขุ่นสีเหลืองหรือเขียว และอาจมีไข้ได้
การขจัดเสมหะ
ถ้าไม่บ้วนเสมหะทิ้ง เสมหะจะถูกกลืนเข้ากระเพาะอาหารในเด็กเล็กที่กระเพาะอาหารยังเล็กอยู่ เมื่อมีเสมหะเต็มกระเพาะอาหาร จะทำให้เด็กเบื่ออาหาร เมื่อให้อาหาร เด็กจะกินเข้าไปได้เล็กน้อยแล้วจะอาเจียนเอาเสมหะออกมามาก
เสมหะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าเสมหะมากควรขจัดออกให้ได้วันละ 3 ครั้ง คือ เมื่อตื่นนอนตอนเช้า ตอนกลางวัน และก่อนนอนตอนกลางคืน การจัดท่าทาง เคาะหรือสั่นปอดควรทำก่อนกินอาหาร น้ำ นม หรือของขบเคี้ยวอื่นๆ หรือภายหลังกินไปแล้ว 2 ชั่วโมง มิเช่นนั้นจะเกิดการไอ และสำลักเอาเศษอาหารเข้าหลอดลมอุดตันทางเดินหายใจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
การ เคาะปอดขับเสมหะ
การเคาะปอดจะช่วยให้เสมหะที่ติดค้างอยู่ตามถุงลมเกิดการสั่นสะเทือนและหลุดล่อนออกจากถุงลมโดยจะทำร่วมกับการจัดท่า หรือทำการเคาะปอดก่อนแล้วค่อยจัดท่า เพื่อให้เสมหะที่หลุดออกจากถุงลมไหลออกไปตามแขนงปอด