ศีรษะทารกแรกเกิด มีแผลอย่ารีบโวยอาจไม่ใช่จากการทำคลอด - Amarin Baby & Kids
ศีรษะทารกแรกเกิด ภาวะบกพร่องการสร้างผิวหนัง

ศีรษะทารกแรกเกิด มีแผลอย่ารีบโวยอาจไม่ใช่จากการทำคลอด

Alternative Textaccount_circle
event
ศีรษะทารกแรกเกิด ภาวะบกพร่องการสร้างผิวหนัง
ศีรษะทารกแรกเกิด ภาวะบกพร่องการสร้างผิวหนัง

ศีรษะทารกแรกเกิด มีแผลฉกรรจ์หลังคลอด หมอวอนอย่าเพิ่งโวย อาจไม่ใช่จากการทำคลอดที่ผิดพลาด แต่เป็นภาวะการสร้างผิวหนังที่ผิดปกติ หรือ aplasia cutis congenita

ศีรษะทารกแรกเกิด มีแผลอย่ารีบโวยอาจไม่ใช่จากการทำคลอด!!

เกิดเหตุวุ่น ๆ เมื่อความไม่รู้ทำให้เกิดการเข้าใจผิดกันเสียขนานใหญ่ กับเรื่อง ศีรษะทารกแรกเกิด ที่เกิดมีแผลหลังคลอด เป็นเหตุให้พ่อแม่เกิดความระแวงสงสัยการทำงานของแพทย์ และพยาบาล

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพศีรษะของเด็กทารกซึ่งเป็นลูกของตนเอง พบมีบาดแผลเป็นรูขนาดใหญ่ พร้อมกับระบุข้อความว่า

“โรงพยาบาลนี้เป็นยังไง หัวลูกเป็นแผลขนาดนี้ แล้วมาบอกว่าเป็นจากในท้อง ..มันคมขนาดนั้นเลยไง ขอความจริง…”

อย่างไรก็ตาม พบว่าโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ต่างเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่แพทย์ และพยาบาลเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ได้มีชาวเน็ตเข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับลักษณะของบาดแผลบนศีรษะของเด็กว่า อาจจะเป็น “Aplasia cutis congenita” หรือที่รู้จักกันในนาม cutis aplasia เป็นโรคที่มีมาแต่กำเนิดที่หายาก

ข้อความได้ถูกตัดทอนบางส่วน ที่มาจาก mgronline.com
ศีรษะทารกแรกเกิด กรณีเกิดภาวะ aplasia cutis congenita
ศีรษะทารกแรกเกิด กรณีเกิดภาวะ aplasia cutis congenita

หมอขออธิบาย!!

ในขณะที่เพจ Drama-addict ได้แสดงความห่วงใย และให้ข้อคิด และความรู้ต่อกรณีดังกล่าว ไว้ดังนี้

aplasia Cutis Congenita คือภาวะผิดปรกติแต่กำเนิดของเด็กทารก
ประมาณว่า เด็กเกิดมา โดยที่ การสร้างผิวหนังของเด็กบางส่วนผิดปกติ เช่น ตรงขวัญบนหัว อันนี้พบบ่อย เด็กเกิดมา ก็จะมีรอยแบบนี้นิดนึง ซึ่งไม่มีอันตรายใดๆ ปล่อยไว้ซักพักแผลก็หาย ผิวหนังก็จะขึ้นมาเต็มตรงจุดนั้น ประเด็นคือ ภาวะนี้ทำให้เกิดดราม่าในบ้านเรามาหลายรอบแล้ว เพราะพอเด็กคลอดออกมา มีรอยแบบนี้บนหัว พ่อแม่ก็จะคิดว่า รพ ต้องเอาอุปกรณ์อะไรไปจิกหัวลูกจนเป็นแผลแน่ๆ ซึ่งจากที่ทำคลอดเด็กมา ยังนึกไม่ออกว่าจะมีอุปกรณ์ไหนในขั้นตอนการทำคลอดที่ทำให้เด็กมีแผลแบบนี้นะ ขนาดเด็กที่มีรอยบนหัวจากการใช้อุปกรณ์ช่วยคลอด ก็ไม่มีรอยแบบนี้ครับ
ก็ตามนี้นะครับ พ่อแม่ท่านใดเจอลูกแรกเกิดมีหัวแบบนี้ อย่าเพิ่งรีบโพสเฟซประจานด่าหมอ ด่า รพ เด๋วจะซวยเอา

ทำความรู้จัก Aplasia Cutis Congenita

เป็นกลุ่มของความผิดปกติของการสร้างผิวหนังของทารก ไม่มีผิวหนังบริเวณนั้น ๆ ตั้งแต่เกิด  พบการรายงานครั้งแรกโดย Cordon ในปี พ.ศ. 2310 aplasia cutis congenita  อาจเกิดเฉพาะที่ หรือกระจายตามร่างกายก็ได้ โดยส่วนมากตำแหน่งของการเกิดโรค 70% มักพบบน ศีรษะทารกแรกเกิด สามารถพบได้ทุกเชื้อชาติ ทุกเพศ แต่เป็นโรคที่พบไม่ได้บ่อยนัก

สังเกตความผิดปกติของลูกน้อย สงสัยถามแพทย์โดยตรง
สังเกตความผิดปกติของลูกน้อย สงสัยถามแพทย์โดยตรง

ใน 70–80% ของกรณี Aplasia cutis ส่งผลกระทบต่อหนังศีรษะ  ด้านข้างของเส้นกึ่งกลางแต่รอยโรคอาจเกิดขึ้นที่ใบหน้า ลำตัว หรือแขนขา ในบางครั้งในลักษณะสมมาตร

  • พื้นที่ของการสูญเสียผิวหนัง หรือแผลเปื่อยมีขนาดตั้งแต่ 0.5 ซม. ถึง 10 ซม.
  • ส่วนที่เป็นแผลไม่อักเสบ และแบ่งเขตได้ดี
  • ปอยผมรอบ ๆ แผล aplasia cutis อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติ ที่แฝงอยู่ ด้วยข้อบกพร่องของ ท่อประสาท
  • ส่วนมาก aplasia cutis เกี่ยวข้องกับผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น ( ผิวหนังชั้นบน) ข้อบกพร่องตื้นมักจะหายก่อนที่เด็กจะเกิด ทิ้งรอยแผลเป็นไว้
  • ข้อบกพร่องที่ลึกกว่าสามารถขยายผ่าน ผิวหนัง ชั้นหนังแท้ เนื้อเยื่อ ใต้ผิวหนังและเชิงกราน กะโหลกศีรษะ หรือดูราได้น้อยมาก
  • Aplasia cutis อาจหายได้บางส่วนก่อนคลอดและปรากฏเป็นแผลเป็น ที่ไม่มีขน ตีบพังผืด คล้าย parchmentlike หรือพังผืด
  • Membranous aplasia cutis เป็นเยื่อสีขาวแบนที่วางซ้อนกับข้อบกพร่องในกะโหลกศีรษะ การเจริญเติบโตของเส้นผมที่บิดเบี้ยว เป็นตัว บ่งชี้ถึงข้อบกพร่องของกะโหลกศีรษะที่อยู่เบื้องล่าง เช่น เอนเซฟาโลโคเอลี เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเยื่อหุ้มสมอง และเนื้อเยื่อสมองนอกกะโหลกศีรษะ
  • ผู้ที่เป็นโรค aplasia cutis บางคนก็มีหัวใจพิการแต่กำเนิด ทางเดินอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ(เช่น gastroschisis หรือ omphalocele )และระบบประสาทส่วนกลาง ( เช่น  meningomyelocele  หรือ spinal dysraphism )

    ทารกแรกเกิด กับความกังวลใจของพ่อแม่
    ทารกแรกเกิด กับความกังวลใจของพ่อแม่

ปัจจัยที่ก่อให้เกิด aplasia cutis ได้แก่

  • กรรมพันธุ์  อาจพบ aplasia cutis ร่วมกับข้อบกพร่องของผิวหนังที่มีมาแต่กำเนิดอื่น ๆ เช่น organoid  หรือepidermal naevi สามารถเกิดได้ในกรณีที่มีคนในครอบครัวมีรายงานที่มีการเกิดภาวะนี้ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบ autosomal dominant และautosomal recessive
  • การติดเชื้อที่รกระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคอีสุกอีใส หรือเริม เป็นต้น
  • สารก่อมะเร็ง ยาหรือสารเคมีที่ทำให้เกิดความผิดปกติ เช่น เมทามาโซล คาร์บิมาโซล ไมโซพรอสทอล โคเคน กัญชา เป็นต้น
  • ความผิดปกติในการพัฒนาผิวหนังของทารกในครรภ์
  • แถบ น้ำคร่ำเนื่องจากการแตกของน้ำคร่ำในช่วงต้น
  • การตายของทารกในครรภ์แฝด (papyraceous fetus)

Aplasia cutis นั้นหายากและไม่มีเชื้อชาติ หรือเพศใดที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้พ่อแม่ไม่ต้องมีความกังวลมากนัก และส่วนใหญ่ที่พบมักเป็นแผลเล็กเกิดที่บริเวณศีรษะ ซึ่งสามารถหายได้เอง แต่เพื่อความปลอดภัยควรอยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีที่สุด

ศีรษะทารกแรกเกิด กับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
ศีรษะทารกแรกเกิด กับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

การรักษา

บริเวณเล็กๆ ของ aplasia cutis มักจะหายเองตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้เกิดแผลเป็นที่ไม่มีขน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ อาจใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยน และขี้ผึ้งที่อ่อนโยน หากเกิดการติดเชื้อ สามารถใช้ยาปฏิชีวนะภายใต้การดูแลของแพทย์ได้

แผลขนาดใหญ่ หรือส่วนที่ไม่มีผิวหนังของหนังศีรษะหลายจุด อาจต้องได้รับการผ่าตัดซ่อมแซม บางครั้งอาจจำเป็นต้องปลูกถ่ายผิวหนังหรือกระดูก อาจใช้เครื่องขยายเนื้อเยื่อ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

สรุป

เช็กให้ชัวร์ ดูให้แน่ก่อนว่าสิ่งที่เรากำลังสงสัยนั้น เป็นเรื่องที่ควรเชื่อมากน้อยเพียงใด ทางที่ดีที่สุด หากมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาคุณหมอโดยตรงจะดีที่สุด เพราะนอกจากพ่อแม่จะได้คลายความกังวลต่อข้อสงสัยแล้ว หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น มาพบว่าแท้จริงแล้วเป็นโรค จะได้รับการรักษาได้ทัน ไม่เป็นอันตรายร้ายแรง

ข้อมูลอ้างอิงจาก dermnetnz.org
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ศีรษะทารกแรกเกิด บวมโนอันตรายไหม? จะยุบเมื่อไหร่?

หมากฝรั่งติดคอ ลูกทำไงดี!กลืนลงท้องเลยได้ไหม?

หมอเตือน! เด็กติดโรคโควิด ทำลายสมอง เสี่ยงเสียชีวิต

ทำไม ใส่หน้ากากอนามัยนาน แล้วปวดหัว

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up