เป็นRSV- โรค RSV (Respiratory syncytial virus) คือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่สามารถส่งเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ทว่าเชื้อชนิดนี้จะส่งผลร้ายแรงกว่าในเด็กทารกและเด็กเล็ก เนื่องจากทางเดินหายใจของทารกและเด็กเล็กอาจยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ในรายที่มีอาการหนักอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะปอดอักเสบได้จากการเกิดพยาธิสภาพของหลอดลมเล็ก (bronchiole) และถุงลม (alveoli)
ทำความรู้จักเชื้อ RSV
เชื้อไวรัส RSV แบ่งออกได้ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ RSV-A และ RSV-B สามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านทางเยื่อบุตา จมูก ปาก หรือผ่านทางการสัมผัสเชื้อโดยตรงจากการจับมือซึ่งการติดเชื้อดังกล่าวมักพบในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี และมีการระบาดเกือบทุกปี ในคนส่วนใหญ่ RSV ทำให้เกิดอาการหวัดโดยมักจะมีอาการไอร่วมด้วย ในเด็กทารก RSV อาจมีการเจ็บป่วยที่รุนแรงขึ้นจากหลอดลมฝอยอักเสบ ทารกที่เป็นโรคหลอดลมฝอยอักเสบจะหายใจได้ค่อนข้างลำบาก นอกจากนี้เชื้อไวรัสยังสามารถนำไปสู่การติดเชื้อรุนแรง เช่น ปอดบวม RSV เป็นไวรัสที่ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ มีเพียงการรักษาตามอาการเพื่อลดระยะและความรุนแรงของการติดเชื้อเท่านั้น
อาการของ RSV ในทารกและเด็กเล็ก
ในเด็กโต RSV อาจทำให้เกิดอาการคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เช่น มีไข้ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล แต่ในทารกและเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 3 ขวบ ไวรัสอาจทำให้เด็กมีอาการรุนแรงกว่า โดยสามารถมีอาการโรคลุกลามไปยังทางเดินหายใจส่วนล่าง (หลอดลม เนื้อปอด) ทำให้หลอดลมใหญ่อักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบและปอดอักเสบตามมาได้ โดยไวรัส RSV มักระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือประมาณ เดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน
อาการเริ่มต้นของโรคผู้ป่วยอาจมีความอยากอาหารลดลง หรือน้ำมูกไหล หลังจากนั้นอาการที่รุนแรงมากขึ้นอาจปรากฏภายในสองสามวันต่อมา
อาการของทารกและเด็กที่ติดเชื้อ RSV ได้แก่ :
- หายใจเร็วกว่าปกติ
- หายใจลำบาก
- ไอ
- มีไข้
- กระวนกระวาย
- ซึมลงอย่างเห็นได้ชัด
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
- จาม
- หายใจลำบาก (ใช้กล้ามเนื้อหน้าอกช่วยหายใจ)
ทารกบางคนมีความเสี่ยงต่ออาการ RSV มากกว่า ซึ่งรวมถึงเด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือทารกที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดหรือหัวใจ
ลูกมีอาการแบบไหนควรรีบไปพบแพทย์
ผู้ป่วย RSV อาจมีอาการหวัดเล็กน้อยไปจนถึงหลอดลมฝอยอักเสบขั้นรุนแรง แต่ถ้าคุณสงสัยว่าลูกของคุณติดเชื้อ RSV ควรโทรหากุมารแพทย์หรือขอการดูแลทางการแพทย์ฉุกเฉิน
โดยอาการที่ต้องระวัง ได้แก่ :
- ลูกมีอาการขาดน้ำ เช่น ไม่มีน้ำตาเมื่อร้องไห้
- ไอมีเสมหะเป็นมูกข้น มีสีเขียวหรือเหลือง ทำให้หายใจลำบาก
- มีไข้สูงกว่า 38 °C ตรวจทางทวารหนักในทารกที่อายุน้อยกว่า 3 เดือน
- มีไข้สูงกว่า 39.4 °C ในเด็กทุกวัย
- น้ำมูกเหนียวข้นทำให้หายใจลำบาก
- รีบไปพบแพทย์ทันทีหากเล็บหรือปากของทารกเริ่มมีสีเขียว สิ่งนี้บ่งชี้ว่าเด็กอาจได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
การรักษา RSV ในทารก
ในกรณีที่รุนแรงอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอ และยาละลายเสมหะ แต่ในเด็กบางรายที่มีเสมหะเหนียวมากและมีอาการหนักอาจต้องทำการพ่นยาขยายหลอดลม หรือให้น้ำเกลือผ่านทางออกซิเจนละอองฝอย เคาะปอดและดูดเสมหะออก ยาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์ในการรักษาหากไม่มีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน นอกจากนี้หากเด็กมีอาการขาดน้ำ แพทย์อาจพิจารณาให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ (IV)
ลูกไม่ป่วย เป็นRSV แน่ถ้าพ่อแม่ดูแลแบบนี้!
จะป้องกันลูกจากการติดเชื้อได้อย่างไร
- หมั่นล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดเชื้อ RSV และเชื้ออื่นๆ ที่ติดมากับมือ การล้างมือสามารถฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้สูงถึงร้อยละ 70
- ในกรณีฉุกเฉินสามารถใช้แอลกอฮอลเจลถูมือช่วยป้องกันโรคได้
- หลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัดถ้าไม่จำเป็น
- ทำความบริเวณสะอาดบ้าน ของใช้ และของเล่นเด็กเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ มีรายงานว่าทารกที่สูดดมควันบุหรี่ มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส RSV ได้ง่าย และอาการมักรุนแรง
- รับประทานอาหารถูกสุขลักษณะ ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
- พักผ่อนให้เพียงพอ ทั้งนี้ไม่ควรอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา
- เมื่อบุตรหลานมีไข้หรือมีน้ำมูก ควรแยกเด็กที่ป่วยออกจากเด็กปกติเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
อย่างที่ทราบกันว่า RSV เป็นโรคที่มักระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว หากคุณพ่อคุณแม่รู้ถึงวิธีการรับมือ และการปฏิบัติตนให้ครอบครัวห่างไกลโรค ก็ทำให้ลูกมีโอกาสเจ็บป่วยได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม การปลูกฝังลูกให้ดูแลสุขภาพตัวเองตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยการอธิบายให้เด็ก ๆ ได้รู้ว่าการไม่ดูแลตนเอง ไม่รักษาความสะอาดนั้นจะก่อให้เกิดโรคขึ้นได้ง่าย ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ดีในการที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะการป้องกันตัวเองจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆให้ลูกได้ กล่าวคือ ลูกจะเป็นเด็กที่มีทักษะความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี (HQ) เป็นเด็กที่สามารถเติบโตสมวัยไปพร้อมกับการพัฒนาการที่ดีและที่สำคัญมีสุขภาพที่ดีได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เตือนแม่ สังเกตอาการ RSV รีบพาไปตรวจหากเข้าข่ายนี้!
Rhinovirus แตกต่างจาก RSV อย่างไร ระวังลูกเป็นโรคทางเดินหายใจ
ไวรัส RSV ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ อันตรายรุนแรงได้คล้ายอาการ RSV ในเด็ก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่