โอ้โห บอกเลยว่าตอนนี้อากาศบ้านเราร้อนหนักมากเลยใช่ไหมคะแม่ๆ เรียกว่าอุณหภูมิพุ่งขนาดนี้ คุณแม่คงไม่อยากจะออกไปไหนแน่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าจะพาลูกน้อยออกไปข้างนอกด้วยยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเด็กน้อยมีผิวที่บอบบางมาก และมักจะมี ผดผื่นทารก ยิ่งหน้าร้อนแบบนี้ผดผื่นยิ่งขึ้นง่ายมากๆ แล้วจะมีวิธีป้องกันอย่างไรได้บ้าง? มาดูกันค่ะ
ผดผื่นทารก
แน่นอนว่าคุณแม่ๆคงไม่อยากให้ลูกมีอาการผดผื่นทารก เกิดขึ้น ดังนั้น ร้อนๆแบบนี้ คุณหมอโรงพยาบาลรามาธิบดี จึงมีวิธีการสังเกตลักษณะของ ผดผื่นทารก และวิธีการป้องกันไม่ให้ลูกน้อยเกิดผดผื่นคันค่ะ
แต่ก่อนอื่นมาดูกันว่า ผด กับ ผื่น ลักษณะต่างกันอย่างไร สังเกตได้เบื้องต้นง่ายๆดังนี้ค่ะ
ผื่น ⇒ เป็นลักษณะปื้นนูนแดง
ผด ⇒ เป็นลักษณะตุ่มเล็กๆ
- ผดเหงื่อ ตุ่มเล็กใส ไม่คัน มักเป็นในร่มผ้า
- ผดร้อน ตุ่มเล็ก มีสีแดงรอบๆ มีอาการคันร่วมด้วย
- ผดหนอง ตุ่มสีขาวขุ่น มีการอักเสบติดเชื้อ และมีหนองอยู่ภายใน
ผดผื่นทารก ที่เกิดจากต่อมไขมัน
เนื่องจากรูขุมขนที่ระบายของต่อมไขมันในทารกนั้นยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพค่ะ และด้วยฮอร์โมนจากคุณแม่ที่ยังคงหลงเหลือตั้งแต่ที่ทารกน้อยอยู่ในครรภ์ก็เป็นตัวกระตุ้น จึงเป็นสาเหตุให้ผิวหนังอักเสบได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณขาหนีบต่างๆ ตั้งแต่ข้อพับ ซอกคอ รักแร้ หลังหู ซึ่งมีต่อมไขมันมากกว่าส่วนอื่น อาจจะเป็นลักษณะของสะเก็ดสีเหลืองแข็งๆ โดยผื่นชนิดนี้ป้องกันไม่ได้แต่จะหายไปเองหลังจากที่ฮอร์โมนที่สะสมไว้หมดลง
ผดผื่นทารก ที่เกิดจากต่อมเหงื่อ
การทำงานของต่อมเหงื่อทารกนั้น มีส่วนคล้ายกับการทำงานของต่อมไขมันนะคะ คือยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพมากนัก จึงเกิดการอุดตันในรูปของผดใส ผดแดงและผดลึก ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมากในช่วงหน้าร้อนค่ะ
ผดร้อน
เกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ ขณะระบายความร้อนออกนอกร่างกาย ทำให้ร่างกายขับเหงื่อไม่ได้ ลักษณะผดจะเป็นตุ่มสีแดงเม็ดเล็กๆ บางครั้งพบเป็นตุ่มน้ำใส พบมากบริเวณไรผม หน้าผาก คอ หลัง บางครั้งอาจพบบริเวณข้อพับแขนขาได้ แต่ไม่ค่อยพบบริเวณหน้าอกหรือท้อง จะหายได้เอง ถ้าเกาบ่อยๆ อาจเกิดการติดเชื้อเป็นตุ่มหนองตามมาได้ ซึ่งคุณแม่ต้องระวังและสังเกตด้วยว่า ผดผื่นนั้นเป็นตุ่มน้ำพองมีหนองหรือไม่ เพราะผิวหนังอาจติดเชื้อแบคทีเรียที่มีมากในหน้าร้อนได้ ถ้าไม่แน่ใจควรพาลูกไปพบแพทย์ทันทีค่ะ
วิธีการป้องกัน ผดผื่นทารก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่