ลูกท้องผูก ถ่ายยาก ทำไงดี?

วิธีแก้ปัญหา ลูกท้องผูก

สำหรับเด็กทารก หาก ลูกท้องผูก พ่อแม่ไม่ควรใช้แท่งสบู่สวนทวารหนักเด็กและไม่ควรไปซื้อยาสวนทวารหนักมาสวนให้ลูกบ่อย ๆ เพราะการสวนก้นบ่อย ๆ จะทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุลำไส้และกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักอาจมีแผลเกิดความเจ็บปวด ซึ่งจะส่งผลให้กล้ามเนื้อหูรูดรอบทวารหนักยิ่งหดเกร็งมากขึ้น ยิ่งทำให้มีอาการท้องผูก ถ่ายอุจจาระไม่ออก และก็จะทำให้ลูกเบ่งอุจจาระไม่เป็นในที่สุด

• ตารางเปรียบเทียบสารอาหารใน ลูกพรุนและน้ำลูกพรุน แก้อาการท้องผูก
• ลูกกินนมแม่..แต่ทำไมยังท้องผูก??
• อาหารแก้ท้องผูก สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

ให้รับประทานอาหารที่มีสารอาหาร และเส้นใยอาหารให้เพิ่มขึ้น เพื่อปรับสภาพภายในลำไส้ ทำให้อุจจาระนุ่ม ถ่ายคล่องขึ้น นอกจากนี้การออกกำลังกายไม่เพียงพอ ยังทำให้พลังการขับถ่ายของลำไส้อ่อนแอลงด้วย จึงควรให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเป็นประจำ รวมถึงให้ดื่มน้ำในอุณหภูมิห้องหลังจากตื่นนอนตอนเช้าด้วย เพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้อีกทางหนึ่ง

อาหารที่ช่วยให้เด็กๆ ถ่ายคล่อง ได้แก่

1. มันเทศ

อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ ช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานและมีพลังในการขับถ่าย อีกทั้งยังเพิ่มปริมาณอุจจาระด้วย เราจึงใช้มันเทศเป็นอาหารเสริมสำหรับเด็กได้ เพียงแต่ต้องแช่น้ำให้หมดยางก่อนนำมารับประทานทุกครั้ง

2. กล้วยหอม

อุดมไปด้วยเพกทิน ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำ และน้ำตาลโอลิโกแซกคาไรด์ ซึ่งจะไปช่วยปรับสมดุลในลำไส้ เป็นอาหารที่เหมาะที่สุดช่วยแก้อาการท้องผูกในเด็กได้ เพราะกินง่ายไม่ต้องปรุงเลย

3. โยเกิร์ต

แบคทีเรียกรดแล็กติกในโยเกิร์ตช่วยกระตุ้นให้ลำไส้เล็กบีบตัว จึงแก้อาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี เมื่อภายในลำไส้มีแบคทีเรียชนิดดีเพิ่มขึ้น แบคทีเรียตัวร้ายก็จะลดลงไปด้วย นอกจากแก้อาการท้องผูกแล้ว ยังบรรเทาอาการท้องเสียและป้องกันอาหารเป็นพิษได้อีกด้วย หากกังวลว่าลูกอาจแพ้โยเกิร์ต รอจนเขาครบ 8 เดือนแล้วค่อยให้รับประทานก็ได้ค่ะ

4. ลูกพรุน

ดื่มน้ำลูกพรุนที่ผสมกับน้ำเป็นวิธีที่ใช้กันและสามารถใช้ได้กับเด็กทารกส่วนใหญ่ สำหรับเด็กที่มีอายุ 6 เดือนหรือมากกว่า ให้เขาจิบดื่มน้ำเล็กน้อยหรือให้ดื่มน้ำผสมน้ำลูกพรุนประมาณ 4 ออนซ์ คุณอาจใช้น้ำองุ่น แอปเปิ้ล หรือน้ำลูกแพร์แทนได้ สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน คุณยังไม่ควรให้ทานอะไรอย่างอื่นนอกจากนมแม่ หากลูกไม่ถ่ายเกินสัปดาห์ให้ไปพบแพทย์

และอีกหนึ่งตัวช่วย คือการใช้ยาระบายในกรณีที่การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการฝึกขับถ่ายไม่ได้ผล ซึ่งการใช้ยาดังกล่าวนี้จะต้องได้รับคําแนะจากแพทย์เท่านั้น

ที่สำคัญเมื่อ ลูกท้องผูก คุณแม่ควรฝึกนิสัยการขับถ่ายให้เป็นเวลาทุกวัน โดยฝึกการรับประทานอาหารเมื่อท้องอิ่มจะกระตุ้นลำไส้ให้อยากถ่ายอุจจาระตามธรรมชาติ สําหรับเด็กอายุ 1 ปี ขึ้นไป ควรฝึกนั่งกระโถนหรือชักโครก โดยให้เท้าวางกับพื้นได้อย่างมั่นคง ผู้ปกครองควรจะอยู่ใกล้ๆ ไม่ควรดุ หรือทําโทษ เพราะจะทําให้เด็กเครียด มีความรู้สึกไม่ดีกับการขับถ่าย ให้คําชมเมื่อเด็กปฏิบัติได้ดีทุกครั้งที่รู้สึกอยากถ่ายอุจจาระ ให้ถ่ายทุกครั้ง ไม่ควรกลั้นอุจจาระไว้

บทความโดย: แพทย์หญิงสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!!